เหนื่อยแต่ยังต้องไปต่อ ทำอย่างไรเมื่อใจไม่ไหว แต่ชีวิตต้องเดินหน้า

ในวันที่คุณต้องตื่นเช้าขึ้นมา ทั้งที่ยังรู้สึกหมดแรง ทั้งที่ใจไม่ไหว แต่ก็ต้องฝืนเดินต่อ คุณไม่ได้เผชิญสิ่งนี้เพียงลำพัง  หลายคนอาจคิดว่า…เหนื่อยก็พัก เดี๋ยวก็หาย แต่ในความเป็นจริง เมื่อความเหนื่อยล้าสะสมทั้งกายและใจ จนเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ หรือหน้าที่การงาน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของความเครียดเรื้อรัง หรือแม้แต่โรคซึมเศร้าโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว  

สัญญาณเตือนว่า…ใจคุณอาจไม่ไหวแล้ว

  • รู้สึกหมดแรงแม้ไม่ได้ใช้แรงกาย  
  • นอนไม่หลับ หรือหลับมากเกินไป  
  • ไม่มีความสุขกับสิ่งที่เคยชอบ  
  • สมาธิสั้น หงุดหงิดง่าย  
  • รู้สึกไร้ค่า ไม่อยากพบเจอใคร  
  • มีความคิดว่าตัวเองไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้  

ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้บ่อย ๆ อย่าปล่อยให้ใจอ่อนล้าจนเกินเยียวยา  

แล้วถ้าใจไม่ไหว แต่ยังต้องเดินหน้า… ควรทำอย่างไร?

  1. พักเพื่อฟื้น ไม่ใช่พักเพื่อหนี

   หยุดพักเพื่อให้ร่างกายและใจได้ชาร์จพลัง แม้เพียงสั้น ๆ แต่ขอให้พักอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่จมอยู่กับความคิดลบ  

  1. แบ่งเวลาให้ตัวเองได้หายใจ

   งานสำคัญ แต่ใจคุณก็สำคัญเช่นกัน ลองหาเวลาสั้น ๆ ต่อวันเพื่อนั่งสงบ หรือทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกดี  

  1. พูดคุยกับใครสักคน

   คนที่รับฟังโดยไม่ตัดสิน คือยาดีของใจ แต่หากไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ปลอดภัยและอบอุ่น  

  1. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

  การเข้าพบจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ไม่ได้แปลว่าคุณอ่อนแอ แต่คือการใส่ใจตัวเองในวันที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด  

BMHH โรงพยาบาลสุขภาพจิต เราพร้อมดูแลและเข้าใจคุณ ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักจิตวิทยาที่จะอยู่ข้างคุณในทุกความรู้สึก ให้คุณได้พักใจ และหาวิธีไปต่ออย่างมั่นคงอีกครั้ง  เพราะชีวิตต้องเดินหน้า… แต่คุณไม่จำเป็นต้องเดินคนเดียว  

ที่มา: ChomPR