กทม. คุมเข้มจุดพลุ-จัดงานรับปีใหม่ 2569 ชี้ฝ่าฝืนเจอโทษจำ-ปรับตามกฎหมาย

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้อนุมัติแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ของ กทม. ประจำปี 2569 เพื่อเป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานให้กับหน่วยงานของ กทม. ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติและได้มีประกาศ กทม. เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนและผู้จัดงาน/กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสถานที่ต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และรับทราบมาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อห้ามเกี่ยวกับการจุดพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ให้เป็นไปตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน พ.ศ.2561 ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่นั้น หากผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ สปภ.ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักอนามัยและสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เก็บ ทำ หรือจำหน่ายพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย รถดับเพลิง เครื่องมือเครื่องใช้ และอุปกรณ์ในการดับเพลิงและกู้ภัย ประจำจุดเฝ้าระวังฯ 41 จุด เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันอันตรายจากเหตุเพลิงไหม้ หรืออุบัติภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน ฯลฯ ในการจัดงานเฉลิมฉลอง งานสังสรรค์ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 ทั้งนี้ หากประชาชนที่พบเหตุเพลิงไหม้บ้าน เพลิงไหม้หญ้า หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน โทร. 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นางดวงพร ปิณจีเสคิกุล  ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ. ได้ประสานสำนักงานเขตเฝ้าระวัง ป้องกันอันตราย และกวดขันการลักลอบผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อดูแลสุขภาพอนามัย ป้องกันอุบัติเหตุ และสร้างเสริมความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยขอความร่วมมือสำนักงานเขตตรวจสอบ ควบคุม กวดขัน ผู้ประกอบการผลิต สะสมและขนส่ง และการจำหน่ายดอกไม้เพลิง พร้อมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปให้มีความรู้ เรื่อง อันตรายจากการผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง และอันตรายจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ฯลฯ

ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือควบคุม กำกับ ดูแลพื้นที่ไม่ให้จุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง และปล่อยโคมลอย โดยเฉพาะพื้นที่เขตพระราชฐาน คลังน้ำมัน แหล่งเก็บเชื้อเพลิง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง โรงพยาบาล ชุมชน ฯลฯ ส่วนผู้มีความประสงค์จุดพลุ ตะไล และปล่อยโคมลอย ต้องยื่นคำขออนุญาต พร้อมแผนการป้องกันเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และแผนผังบริเวณที่จะจุดและปล่อยต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่ไม่น้อยกว่า 15 วัน หลักเกณฑ์การขออนุญาตเป็นไปตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน พ.ศ. 2561 และประกาศ กทม. ลงวันที่ 28 ธ.ค. พ.ศ. 2561 เรื่อง การรับใบอนุญาต การอนุญาต และแผนการป้องกันเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการจุดและปล่อย หรือกระทำอย่างใดเพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ

นอกจากนี้ สนอ. สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สปภ และกลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ตำรวจ EOD) ลงพื้นที่ตรวจแนะนำความปลอดภัยสถานประกอบการผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิง และจำหน่ายดอกไม้เพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ ร่วมกับ สนอ. เมื่อวันที่ 27 – 31 ต.ค. 68 จำนวน 9 แห่ง ผลการตรวจสอบพบว่า สถานประกอบการส่วนใหญ่ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยที่ถูกต้อง ครบถ้วน ส่วนสถานประกอบการที่ยังดำเนินการตามมาตรการไม่ครบถ้วน สนอ. และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการให้มีความรู้ความเข้าใจในมาตรการความปลอดภัย และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง รวมถึงให้สำนักงานเขตดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแลตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

นายเพชรพงษ์ กำจรกิจการ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ. สนพ. กล่าวว่า สนพ. ได้เตรียมความพร้อมรับแจ้งเหตุฉุกเฉินด้านการแพทย์ ผ่านสายด่วน โทร. 1646 และ โทร. 1669 ศูนย์เอราวัณ จัดเตรียมชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินร่วมกับเครือข่ายในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. ทั้งชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูงและระดับเฉพาะทางตามโรงพยาบาลต่าง ๆ 52 โรงพยาบาล มูลนิธิร่วมกตัญญู 1 ทีมและจุดจอดของศูนย์เอราวัณ 22 จุดจอด รวม 75 ทีม ชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐานจากมูลนิธิในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. ทั้ง 8 มูลนิธิกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมทั้งประสานงานชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น สำนักงานเขต เข้าประจำที่จุดบริการประชาชนที่เดินทางออกและเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่

นอกจากนี้ ได้จัดหน่วยปฐมพยาบาล หน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินเข้าประจำจุดที่จัดงานต้อนรับปีใหม่ที่คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมากและประสานงานโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงให้รับทราบและเตรียมพร้อมหากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน เตรียมความพร้อมห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในสังกัด เพื่อเตรียมรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ทั้งยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ เตรียมสำรองโลหิต และเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมถึงจัดทีมติดตามสถานการณ์ระวังและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งทางด้านการแพทย์และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าช่วยเหลือกรณีมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น

ที่มา: กรุงเทพมหานคร