กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าขึ้นทะเบียน GI “ข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่” กลิ่นหอมเผือกเฉพาะตัว เอกลักษณ์โดดเด่น สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 66 ล้านบาท

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศขึ้นทะเบียน “ข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่” สินค้า GI รายการใหม่ อัตลักษณ์เฉพาะตัว ข้าวหุงสุกที่มีกลิ่นหอมเหมือนหัวเผือก เป็นที่ต้องการของตลาด สร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนมาอย่างยาวนาน

นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญามีนโยบายสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน กรมฯ จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร ผ่านการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า อีกทั้งยังเป็นการควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่” เป็นสินค้าข้าว GI ลำดับที่ 24 และเป็นสินค้า GI ลำดับ 3 ของจังหวัดกระบี่ต่อจากสินค้ากาแฟเมืองกระบี่ และทุเรียนทะเลหอย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ 

“ข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่” คือข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวซ้อมมือ ที่แปรรูปมาจากข้าวเปลือกพันธุ์หอมหัวบอน ซึ่งเป็นข้าวไร่พื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดกระบี่ ข้าวกล้องจะมีสีน้ำตาลแดง ส่วนข้าวซ้อมมือจะมีสีขาวขุ่นปนน้ำตาลแดง รูปร่างเรียว ปลูกและแปรรูปในเขตพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีสภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงด่างเล็กน้อย และเนื่องจากข้าวหอมหัวบอนเป็นข้าวที่มีพันธุกรรมตอบสนองเฉพาะดิน ทำให้ข้าวมีความหอมและทนทานต่อโรค อีกทั้งจังหวัดกระบี่มีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกตลอดปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศดังกล่าว ทำให้จังหวัดกระบี่เหมาะกับการปลูกและเจริญเติบโตของข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่ และส่งผลให้ข้าวไร่หอมหัวบอนกระบี่ มีคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อหุงสุกข้าวจะนุ่มและมีกลิ่นหอมเหมือน “เผือก” หรือ “บอน”         ในภาษาใต้ จึงเป็นที่มาของชื่อ หอมหัวบอน หรือ หัวบอน หรือหอมบอน แม้ปัจจุบันการปลูกข้าวในจังหวัดกระบี่จะลดน้อยลง แต่ข้าวไร่หอมหัวบอนยังคงเป็นที่นิยมปลูก เนื่องจากเป็นที่นิยมจากผู้บริโภคในพื้นที่และต่างจังหวัด อีกทั้งยังได้รับการรับรองพันธุ์ข้าวจากกรมการข้าวในปี พ.ศ. 2567 ยิ่งทำให้ข้าวไร่หอมหัวบอน มีแนวโน้มการบริโภคเพิ่มมากขึ้น การปลูกข้าวไร่หอมหัวบอนจึงมีความสำคัญในระบบเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 66 ล้านบาทต่อปี

ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้รับการยกระดับมูลค่าสร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของไทยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข่าวสาร  ความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailand   หรือโทรสายด่วน 1368

ที่มา: กรมทรัพย์สินทางปัญญา