สนน. เดินหน้าโครงการอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในกรุงเทพฯ

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการขุดเจาะอุโมงค์ส่งน้ำใต้ดิน (คลองเปรมประชากร-บางซื่อ) เพื่อก่อสร้างเขื่อนริมคลองเปรมประชากรว่า หลังจาก สนน. ได้รับงบประมาณและเริ่มดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากรจากคลองบางบัวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างขุดเจาะอุโมงค์หัวเจาะที่ 1 จากอาคารรับน้ำรัชดาภิเษกไปอาคารรับน้ำคลองบางบัว และคาดว่าจะขุดเจาะอุโมงค์หัวเจาะที่ 2 จากอาคารรับน้ำรัชดาภิเษกไปยังสถานีสูบน้ำปากคลองซุงประมาณเดือน ธ.ค. 68 ทั้งนี้ ช่วงเริ่มต้นโครงการฯ ประสบปัญหาอุปสรรคบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอาคารรับน้ำคลองเปรมประชากรตอนคลองบางเขน และอาคารรับน้ำคลองเปรมประชากรตอนวัดหลักสี่ และบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอาคารรับน้ำคลองบางบัว มีบ้านรุกล้ำพื้นที่ก่อสร้างอาคารรับน้ำ ไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้เนื่องจากประชาชนไม่ยอมรื้อย้าย ซึ่งปัจจุบันสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้เกือบทั้งหมด เหลือเพียงอาคารรับน้ำคลองเปรมประชากรตอนคลองบางเขนที่อยู่ระหว่างการเจรจาขอให้รื้อย้ายออก ดังนั้น ตามแผนงานโครงการก่อสร้างอุโมงค์คลองเปรมฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2572 หากแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ เขตสายไหม เขตบางเขน และเขตจตุจักร

โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากรจากคลองบางบัวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาดังกล่าวมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.70 เมตร ความยาวประมาณ 13.60 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 109 ตารางกิโลเมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยตรง ซึ่งรวดเร็วกว่าการระบายผ่านระบบคลองตามปกติในช่วงฤดูฝน และสามารถสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาตามอุโมงค์ เพื่อเจือจางน้ำเสียในคลองเปรมประชากร คลองบางเขน คลองหลักสี่ และคลองบางบัว ซึ่งมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้นในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งสอดคล้องกับแผนหลักการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพฯ โดยมีงานก่อสร้าง ประกอบด้วยก่อสร้างสถานีสูบน้ำและอาคารระบายน้ำขนาด 60 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาที รวมทั้ง อาคารรับน้ำ 4 แห่ง ได้แก่ อาคารรับน้ำคลองบางบัว รับน้ำได้สูงสุด 60 ลบ.ม./วินาที อาคารรับน้ำคลองเปรมประชากรตอนวัดหลักสี่ รับน้ำได้สูงสุด 40 ลบ.ม./วินาที อาคารรับน้ำคลองเปรมประชากรตอนคลองบางเขน รับน้ำได้สูงสุด 40 ลบ.ม./วินาที  และอาคารรับน้ำคลองเปรมประชากร ตอนถนนรัชดาภิเษก รับน้ำได้สูงสุด 20 ลบ.ม./วินาที

นอกจากนี้ สนน. ยังดำเนินโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรทั้งระบบ ทั้งการก่อสร้างเขื่อน ขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ป้องกันน้ำท่วม บำบัดน้ำเสีย รวมทั้งพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยมีการ จัดระเบียบและวางผังที่อยู่อาศัยใหม่ควบคู่กับการสร้างระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวริมคลอง ซึ่ง สนน. ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร จุดเริ่มต้นจากสุดเขตกรุงเทพฯ ถึงถนน เทศบาลสงเคราะห์ ระยะทางประมาณ 25,000 เมตร ปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการส่งมอบพื้นที่แล้ว 14,860 เมตร คิดเป็นร้อยละ 59 ก่อสร้างเขื่อนแล้วเสร็จความยาว 14,200 เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 งานในโครงการประกอบด้วย การรื้อย้ายบ้านรุกล้ำเดิมที่อยู่ริมคลองและการก่อสร้างเขื่อน การขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมถึงการก่อสร้างทางเดินริมคลอง เพื่อให้ประชาชนสัญจรและปั่นจักรยาน พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองในคราวเดียวกัน ในส่วนบ้านรุกล้ำเดิมได้จัดหาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคง โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการพัฒนาคลองเปรมประชากรยังมีความล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนด เนื่องจากมีปัญหาอุปสรรคที่สำคัญ คือมีผู้รุกล้ำคลองเปรมประชากรในพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนประมาณ 4,398 หลัง ปัจจุบันได้รื้อย้ายออกไปแล้ว 1,800 หลัง สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว สนน. ได้ร่วมกับสำนักงานเขต กรมธนารักษ์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่เจรจาสร้างความเข้าใจควบคู่กับการใช้มาตรการทางกฎหมาย โดยดำเนินการกับผู้รุกล้ำแนวก่อสร้างเขื่อนตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 11 ม.ค. 2502 (ปว.44) ขณะที่กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการฟ้องดำเนินคดีกับผู้รุกล้ำนอกแนวก่อสร้างเขื่อน และเพื่อให้การดำเนินงานมีความก้าวหน้า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้แต่งตั้ง

คณะกรรมการเร่งรัดและขับเคลื่อนการใช้มาตรการด้านกฎหมายกับผู้ที่รุกล้ำคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าว เพื่อกำกับติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินการด้านกฎหมายและสามารถรื้อย้ายบ้านรุกล้ำ เพื่อพัฒนาคลองเปรมประชากรให้มีความก้าวหน้าต่อไป

ที่มา: กรุงเทพมหานคร