เจาะ 7 สินค้า GI อร่อยจนได้เรื่อง! คุณภาพดีโดนใจผู้บริโภค ในงาน Food Carnival 3 วัน ผลตอบรับเกินคาด ทำรายได้ทะลุเป้า

กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผยความสำเร็จในการส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทยครั้งล่าสุดในงานเทศกาลอาหารแห่งปี Food Carnival “อร่อยเอาเรื่อง” จากการนำ 7 สุดยอดสินค้า GI ร่วมสร้างสีสันและความประทับใจแก่ผู้ซื้อตลอด 3 วันเต็ม ผู้ประกอบการพอใจรายได้ทะลุเป้า พร้อมกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากผู้ซื้อชาวไทยและต่างชาติ โดยมีแนวโน้มจะสานต่อความร่วมมือจัดใหญ่ต่อเนื่องในปีถัดไป นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ความสำคัญและพร้อมเดินหน้าผลักดันสินค้า GI ไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากความร่วมมือล่าสุดกับสื่อออนไลน์เส้นทางเศรษฐี ร่วมนำสินค้า GI ไทย 7 รายการ มาให้นักชิมได้พิสูจน์ความอร่อยในมหกรรมอาหารแห่งปี Food Carnival ‘อร่อยเอาเรื่อง’ เมื่อวันที่ 3 – 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ประสบความสำเร็จอย่างสูง แม้จะพบอุปสรรคจากฝนตกหนักในช่วงกลางวัน แต่สามารถสร้างยอดขายได้เกินเป้า เป็นโอกาสให้ผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ได้ซื้อสินค้า GI แท้ๆ จากผู้ผลิตโดยตรง และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพคุณภาพความอร่อยของสินค้า GI ไทยที่ ‘อร่อยจนได้เรื่อง’ การได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ประกอบการ GI เป็นอย่างมาก โดยเป็นการช่วยเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยหาตลาดใหม่ๆ เจาะกลุ่มลูกค้าคนเมือง รวมถึงสร้างรายได้เกินคาดสำหรับการจำหน่ายสินค้าเพียง 3 วัน โดย 7 สินค้า GI ตัวท็อปที่เข้าร่วมงานทำยอดขายรวมกว่า 2 แสนบาท และได้สร้างความประทับใจแก่นักชิม ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าประเภทอาหาร 2 รายการ ได้แก่ หมูย่างเมืองตรัง สินค้าไฮไลท์สำคัญของงาน เป็นหมูย่างหนังกรอบสีเหลืองทอง เนื้อหอมนุ่ม มันน้อย รสชาติกลมกล่อม ซึ่งโดยปกติจะสามารถหาทานได้ที่จังหวัดตรังเท่านั้น เพราะมีการผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษตามภูมิปัญญาท้องถิ่น หมัก และย่างด้วยเตาก่ออิฐขนาดใหญ่ โดยใช้ไม้ยางพาราในพื้นที่เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งหมูย่างเมืองตรังที่ปรุงสุกแล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 25 – 27 กิโลกรัม ต้องส่งสินค้าขึ้นเครื่องบินมาแบบยกตัว เพื่อนำมาจำหน่ายแบบวันต่อวัน ราคาขายทั้งตัวประมาณ 12,000 บาท และ ปลาทูแม่กลอง (สมุทรสงคราม) สัตว์เศรษฐกิจแห่งอ่าวไทยตอนใน ซึ่งเป็นแหล่งธาตุอาหารที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปลาทูแม่กลองจึงมีเนื้อแน่น ละเอียด มีกลิ่นหอม และมีรสชาติหวานมันเป็นเอกลักษณ์

กลุ่มต่อมา คือ กลุ่มสินค้าประเภทผลไม้ 2 รายการ ได้แก่ ส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม ส้มโอแห่งเมืองสามน้ำ ผลใหญ่ เนื้อร่อน รสชาติหวานอมเปรี้ยว เมล็ดลีบ มีน้ำมากแต่ไม่แฉะ ตามด้วย มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว (สมุทรสาคร) มะพร้าวจากพื้นที่ลุ่มชายฝั่งทะเล ลูกมะพร้าวเนื้อเหนียวนุ่ม รสชาติหวานกลมกล่อม กลิ่นหอมคล้ายใบเตย จำหน่ายทั้งในรูปแบบน้ำมะพร้าวบรรจุขวดและไอศกรีมกะทิและกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มสินค้าประเภทขนม 3 รายการ ได้แก่ ขนมหม้อแกงเมืองเพชร (เพชรบุรี) โดดเด่นด้วยการใช้น้ำตาลโตนดเมืองเพชรเป็นส่วนผสมหลัก มอบกลิ่นหอมและรสชาติหวานละมุนเฉพาะตัว ตามภูมิปัญญาการผลิตขนมหวานที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน ถั่วลิสงเปลือกบาง ลายคล้ายเสือโคร่ง แปรรูปจนได้ถั่วเนื้อสัมผัสกรอบ รสชาติหวานมันปนเค็มอ่อนๆ นับเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน

และปิดท้ายด้วย ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์จากเทือกเขาภูพาน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมล็ดข้าวหุงสุกเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ ถูกเสิร์ฟในเมนูข้าวเหนียวมะม่วงคู่กับมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ไอศกรีมกะทิและไอศกรีมมะม่วง รสชาติอร่อย สดชื่น ถูกใจผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ สินค้า GI ทั้ง 7 รายการ สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นกว่า 4,245 ล้านบาทต่อปีอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การสนับสนุนช่องทางจำหน่ายสินค้า GI ในกิจกรรมดังกล่าว เป็นการดำเนินงานตามแนวนโยบาย Quick Big Win ของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ช่วยสร้างโอกาสและรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้ทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย เพิ่มมูลค่าสินค้า GI ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกรมฯ ขอขอบคุณ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ที่ร่วมเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการขยายโอกาสและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ยังมีกิจกรรมส่งเสริมสินค้า GI ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้อีกมากมายซึ่งผู้ที่สนใจ

สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook : GI Thailand เพื่อเป็นแนวร่วมในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยต่อไป

ที่มา: กรมทรัพย์สินทางปัญญา