เมื่อถึงวันสำคัญอย่างวันตรวจรับบ้าน ความตื่นเต้นอาจทำให้เราไม่รู้จะเริ่มดูจากตรงไหนดี หรือบางทีอาจจะเผลอคิดไปว่า ตรวจนิดหน่อยก็ได้ ปัญหาคงไม่มี ซึ่งเป็นความคิดที่อันตรายมาก เพราะบ้านคือสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ การสละเวลาตรวจสอบทุกซอกทุกมุมให้ดีตั้งแต่แรก คือการป้องกันปัญหาปวดหัวและค่าใช้จ่ายจุกจิกที่จะตามมาในอนาคต บทความนี้จึงรวบรวมเช็กลิสต์สำคัญ ๆ ที่จะช่วยให้การตรวจบ้านของคุณเป็นเรื่องง่ายและครบถ้วนที่สุด

อุปกรณ์ที่ควรเตรียมสำหรับการตรวจบ้าน
- ไฟฉาย สำหรับส่องดูในมุมมืดหรือพื้นที่ที่แสงไม่เข้าถึง
- ตลับเมตร วัดขนาดห้องและตรวจสอบความถูกต้องตามแบบ
- กล้องถ่ายรูป บันทึกภาพจุดที่พบปัญหาเป็นหลักฐาน
- สมุดจดบันทึกและปากกา จดรายการที่ต้องแก้ไขหรือสอบถาม
- เครื่องวัดความชื้น เช็กปัญหาความชื้นในผนังหรือเพดาน
- ไขควงทดสอบไฟฟ้า ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในทุกจุด
6 จุดที่ต้องตรวจก่อนโอนกรรมสิทธิ์
การตรวจบ้านให้ครบถ้วนนั้นมีหลายจุดที่ต้องดู แต่เราจะมาดูกันว่าจุดไหนสำคัญที่สุดและไม่ควรพลาด
1. ตรวจบันไดขึ้น-ลง
บันไดเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้นการตรวจสอบจึงต้องละเอียดเป็นพิเศษ ให้เริ่มจากการดูว่าขั้นบันไดแต่ละขั้นมีความสูงเท่ากันหรือไม่ ลองเดินขึ้นลงดูว่ามีเสียงแปลก ๆ หรือสั่นสะเทือนไหม ผิวพื้นบันไดต้องไม่ลื่นและไม่มีรอยแตกหรือบิ่น ส่วนราวจับต้องแข็งแรงไม่โยกไปมา หากบ้านมีจมูกบันไดอลูมิเนียมติดตั้งไว้ ให้ตรวจดูว่าติดแน่นดีและไม่มีรอยคมที่อาจทำให้บาดเจ็บได้
2. ตรวจประตู หน้าต่าง

ประตูและหน้าต่างเป็นส่วนที่ใช้งานบ่อยที่สุด ลองเปิดปิดดูว่าทำงานได้สะดวกไม่ติดขัด กุญแจล็อกได้แน่นหนา และเมื่อปิดแล้วต้องแนบสนิทไม่มีช่องว่างให้ลมหรือน้ำฝนเข้ามาได้ ดูบริเวณวงกบว่า มีรอยขีดข่วนหรือรอยบิ่นไหม ถ้าเป็นประตูหน้าต่างกระจก ให้เช็กว่าไม่มีรอยร้าวและกระจกไม่หลวม
3. ตรวจการระบายน้ำ
ปัญหาน้ำขังเป็นเรื่องที่สร้างปัญหาได้มาก ให้ทดสอบด้วยการเปิดน้ำทิ้งไว้ที่พื้นรอบบ้านแล้วดูว่าน้ำไหลไปได้หรือไม่ ตรวจดูรางน้ำฝนและรูระบายน้ำว่าไม่มีสิ่งอุดตัน หากบ้านต่ำกว่าถนนหรือบ้านข้างเคียง ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเพราะอาจมีปัญหาน้ำท่วมขังได้ง่าย
4. ตรวจหลังคาและฝ้า
หลังคารั่วเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ยาก วิธีเช็กคือให้มองหาร่องรอยการรั่วซึมจากคราบน้ำ หรือจุดที่มีสีผิดปกติบนฝ้าเพดาน ส่วนของหลังคาให้เช็กดูว่ากระเบื้องหลังคาไม่แตกร่วงและรางน้ำฝนอยู่ในสภาพดี ส่วนฝ้าเพดานต้องแนบสนิทกับผนัง ไม่ยุบตัวหรือมีรอยแตกร้าว
5. ตรวจพื้นบ้าน

ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้ ต้องเรียบเสมอกัน เดินแล้วไม่ยวบยาบ สำหรับพื้นกระเบื้อง ลองใช้เหรียญบาท หรือด้ามไขควงเคาะเบา ๆ ฟังเสียงดู ถ้าเสียงโปร่ง ๆ กลวง ๆ ไม่แน่นเหมือนแผ่นอื่น แสดงว่าช่างปูปูนไว้ไม่เต็มแผ่น อาจแตกหักได้ง่ายในอนาคต
6. ตรวจระบบน้ำ-ไฟ
ระบบน้ำและระบบไฟต้องตรวจละเอียดเป็นพิเศษ เพราะเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราโดยตรง
ระบบน้ำ
- เปิดก๊อกน้ำทุกจุดดูว่าน้ำไหลออกมาปกติ
- ตรวจหาการรั่วซึมของท่อหรือข้อต่อ
- ทดสอบการระบายน้ำในอ่างล้างหน้าและอ่างอาบน้ำ
- กดชักโครกทุกห้อง ทดสอบว่าทำงานได้ปกติและไม่มีน้ำรั่วซึมออกมา
- ดูความดันน้ำว่าแรงสม่ำเสมอในทุกจุด
ระบบไฟฟ้า
- ทดสอบสวิตช์ไฟทุกดวงว่าเปิดปิดได้ตามปกติ
- เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าลองทุกปลั๊กว่าใช้งานได้
- ตรวจดูว่าไม่มีรอยไหม้หรือกลิ่นไฟฟ้าลัดวงจร
- เช็กขนาดมิเตอร์ไฟว่าเพียงพอกับการใช้งาน
- ดูตำแหน่งปลั๊กว่าเพียงพอและอยู่ในจุดที่สะดวกใช้
สรุปบทความ
การตรวจบ้านอาจจะดูเหมือนมีรายละเอียดเยอะ แต่การสละเวลาตรวจสอบให้ดีตั้งแต่แรก จะช่วยให้เราย้ายเข้าอยู่ได้อย่างสบายใจและประหยัดค่าซ่อมแซมที่ไม่ควรจะเกิดในระยะยาว ดังนั้นอย่าลืมนำเช็กลิสต์นี้ไปใช้เป็นแนวทาง และหากพบเจอปัญหาหรือจุดไหนที่ไม่เรียบร้อย ต้องแจ้งให้ทางโครงการหรือเจ้าของเดิมรับทราบเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง