Dow เปิดตัวนวัตกรรม Personal Care เพื่อความงามที่หลากหลายและยั่งยืน เติมเต็มความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่

Dow เปิดตัวนวัตกรรมใหม่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและดูแลร่างกาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “BEAUTY IN HARMONY” ในงาน in-cosmetics Asia 2025 สะท้อนเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกับที่เน้นให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนตัวตนที่หลากหลายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน

นายรัฐเชษฐ์ ธีระธนาวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและดูแลร่างกาย กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า ในงาน in-cosmetics Asia 2025 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ Dow ในฐานะผู้คิดค้นโซลูชั่น (solutions provider) กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและดูแลร่างกาย (Personal Care) ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ที่คิดค้นขึ้นจากนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ได้แก่ คอลเลคชัน ภายใต้แนวคิด “BEAUTY IN HARMONY ความงามที่สอดคล้องกับความต้องการและค่านิยมของผู้บริโภคยุคใหม่” ที่เน้น 3 แกนสำคัญ ได้แก่ ความยั่งยืน (Sustainability) สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ซิลิกาจากการอัพไซเคิลแกลบข้าว ความหลากหลายและการแสดงตัวตน (Inclusivity & Self-expression) สะท้อนความเป็นตัวเองของผู้ใช้ รองรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความหลากหลายของประเภทผิวและเส้นผม และ นวัตกรรม (Innovation) ที่เป็นหัวใจของการสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค โดยเน้นสูตรใหม่ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบในหนึ่งเดียว (Multifunctional) เช่น ครีมนวดผมที่ช่วยให้ผมหวีง่ายขึ้น แป้งควบคุมความมันที่ไม่เป็นคราบ หรือเมคอัพที่เปลี่ยนเนื้อสัมผัสระหว่างใช้งาน 

“ปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการที่ชัดเจนมาก โดยมองหาสินค้าที่มีคุณภาพดี มีประสิทธิภาพสูง และมีความแปลกใหม่ เราจึงได้คิดค้นสินค้าใหม่ๆ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความหลากหลาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด Beauty in Harmony สามารถตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี” 

ทั้งนี้ Dow ได้นำเสนอในรูปแบบสินค้าตัวอย่างที่สามารถลองเนื้อสัมผัสและเห็นรูปร่างลักษณะของส่วนผสม เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพของสินค้าที่จะพัฒนาได้ชัดเจนขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด Beauty in Harmony ทั้ง 7 สูตรส่วนผสม ที่ครอบคลุมผิวหน้า ผิวกาย และจัดแต่งทรงผม ได้แก่

  • REFRESH MY LOOK – Hair Mascara ส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์แต่งสีผม ที่มีองค์ประกอบสารจัดแต่งทรงผมจากแป้งข้าวโพดที่มาจากธรรมชาติ ติดทนนาน ล้างออกง่าย ไม่เปื้อนระหว่างวัน
  • SHIELD MY SKIN – Sun Lotion โลชั่นกันแดดที่มีส่วนผสมที่มีความเป็นมิตรกับจุลินทรีย์บนผิว ไม่ทำลายสมดุลของจุลินทรีย์บนผิวหนัง เนื้อบางเบา ลดคราบขาวเมื่อทาบนผิว
  • FREE FROM DUST – Oil Control Powder: ส่วนผสมสำหรับแป้งควบคุมความมันจากซิลิกาธรรมชาติ ช่วยดูดซับความมันและให้ผิวแมตต์ ไม่เป็นคราบ เป็นเนื้อครีมเมื่อสัมผัสบนใบหน้าจะกลายเป็นฟิล์มเคลือบบนผิว ไม่มีฝุ่นแป้ง
  • SMOOTHEN MY HAIR – Rinse-off Conditioner ครีมนวดผมที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ลดแรงเสียดทาน ช่วยให้หวีผมง่ายขึ้น มีตัวเลือกเสริมประสิทธิภาพด้วยซิลิโคน
  • CHOOSE MY STYLE – Styling Pomade เจลบาร์มใสจัดแต่งทรงผม เพิ่มความเงางามและคงรูปทรงผมแม้ในสภาพอากาศชื้น
  • DEFINE MY COLOR – Lip & Cheek Powder เนื้อสัมผัสจะเปลี่ยนจากแป้งเป็นครีมเมื่อทา ใช้ได้ทั้งริมฝีปากและแก้ม กันน้ำ ติดทนนาน
  • SPARKLE ME UP – Glitter Stick สติ๊กกลิตเตอร์เพิ่มประกายผิว ติดทนนาน ไม่หลุดง่าย

คุณรัฐเชษฐ์กล่าวว่าปัจจุบันพบการเติบโตของสินค้า Personal Care ในกลุ่มแบรนด์ของไทยและแบรนด์อิสระ ที่ขยายตัวอย่างน่าสนใจในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่สำคัญหลายแบรนด์มีคุณภาพและความหลากหลายของสินค้าเทียบเคียงกลุ่มแบรนด์ระดับโลก โดยสื่อโซเชียลมีเดียในปัจจุบันมีผลอย่างมากในการกระตุ้นการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจดังกล่าว ซึ่ง Dow ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และร่วมสนับสนุนเทรนด์การเติบโตดังกล่าวผ่านช่องทางความร่วมมือกับกลุ่ม ODM ที่มีทีมงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และเป็นผู้รับจ้างออกแบบและผลิตสินค้าให้แบรนด์อิสระต่าง ๆ เพื่อส่งผ่านองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และแนวโน้มความต้องการของตลาดให้แก่เจ้าของแบรนด์ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของแบรนด์เหล่านั้นมีสินค้าคุณภาพดี และมีความรู้ความเข้าใจ สามารถสื่อสารประโยชน์ของสินค้าให้ผู้บริโภคเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อได้ 

คุณรัฐเชษฐ์ยังกล่าวอีกว่า คาดว่าตลาดสินค้ากลุ่ม Personal Care จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและการบริโภคสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้นจากรูปแบบการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีหลายเลเยอร์มากขึ้น เช่น ใช้ทั้งเซรั่ม โลชั่น ครีมบำรุง และอื่นๆ ในขั้นตอนเตรียมผิว ทำให้ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์โดยรวมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น ยังพบรูปแบบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค เช่น สินค้าในรูปแบบซองแบ่งจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ตลาดมากขึ้น โดยนอกจากแบรนด์ระดับโลก แบรนด์ไทย แบรนด์จากเกาหลีและญี่ปุ่นแล้ว ยังพบแบรนด์จากจีนเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งสุดท้ายแล้วประโยชน์จากการแข่งกันพัฒนาสินค้าจะตกแก่ผู้บริโภค

ที่มา: มาเธอร์ ครีเอชั่น