โครงการ ASEAN DSE 2025 สานต่อภารกิจพัฒนาทักษะด้านการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลให้กับคนรุ่นใหม่ เตรียมความพร้อมสู่ตลาดโลกที่มีการแข่งขันสูงในอนาคต

มูลนิธิอาเซียนและ SAP ได้ทำการสรุปงาน ASEAN Data Science Explorers 2025 Regional Finals ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดกิจกรรม ASEAN Chairmanship 2025 

มูลนิธิอาเซียน ร่วมมือกับ SAP ประสบความสำเร็จในการจัดโครงการการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ ASEAN Data Science Explorers (ASEAN DSE) 2025 ครั้งที่ 9 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีนักศึกษาจำนวน 22 คนจากสถาบันการศึกษาระดับมัธยมและระดับอุดมศึกษาจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน นำเสนอโครงการที่ดำเนินงานด้วยข้อมูลและแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาค 

ผู้เข้าร่วมโครงการได้แสดงความสามารถในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือเพื่อนำเสนอทางออกที่สร้างผลกระทบที่แท้จริงต่อประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมทั่วอาเซียน โดยใช้ SAP Analytics Cloud นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) 6 ประการ ได้แก่ “ขจัดความหิวโหย” (SDG 2), “สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” (SDG 3), “น้ำสะอาดและสุขาภิบาล” (SDG 6), “เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน” (SDG 11), “การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ” (SDG 12) และ “การรับมือกับสภาพภูมิอากาศ” (SDG 13) 

ทีม DataMinions จาก สปป.ลาว ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาคของการแข่งขัน ASEAN DSE 2025 จากการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า Namjai Smart Water Tank ซึ่งเป็นถังเก็บน้ำที่สามารถกรองและตรวจจับสารอันตรายในน้ำ พร้อมแจ้งเตือนครัวเรือน องค์กรพัฒนาเอกชน และหน่วยงานราชการต่างๆ ในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ดูแลรักษาคุณภาพน้ำที่สะอาด ถังเก็บน้ำนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาประเด็นน้ำสะอาดในอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ สปป.ลาว ประเทศกัมพูชา และประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ทีม Mamamamoodeng จากประเทศไทย และทีม MyKXLab จากประเทศมาเลเซีย ยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งและสองอีกด้วย 

 “เรารู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาคของการแข่งขัน ASEAN DSE 2025 การได้เห็นโครงการของผู้เข้ารอบสุดท้ายคนอื่นๆ สร้างแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้เราพัฒนาโครงการริเริ่มต่างๆต่อไป เพื่อสร้างผลกระทบต่ออาเซียนที่คงอยู่อีกเป็นเวลายาวนาน มิตรภาพและสายสัมพันธ์อันล้ำค่าที่เกิดขึ้นระหว่างโครงการนี้จะไม่ใช่เพียงชั่วคราว แต่จะคงอยู่กับเราตลอดไปในขณะที่เราก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาตนเองในฐานะสมาชิกของประชาคมอาเซียน” คุณ Palinya Sengdalavong (Singapore University of Technology and Design) และคุณ Kounlasatty Manivong (Singapore Management University) สมาชิกทีม DataMinions กล่าว 

ในฐานะรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง Team Mamamamoodeng ได้คิดค้นแนวทางแก้ไขนวัตกรรมที่ชื่อว่า Bio Loop แอปพลิเคชันบนมือถือนี้ซึ่งริเริ่มโดย คุณนันนภัส มากบุญ และคุณกุลณัฎฐ์ น้อยน้ำคำ มอบแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการทำฟาร์มแมลงวันลายที่มีประสิทธิภาพ (Black Soldier Fly: BSF) ให้กับเกษตรกรในประเทศไทย “สำหรับเรา ขยะทุกกิโลกรัมในหลุมฝังกลบเปรียบเสมือนเงินที่ถูกทิ้งไปเนื่องจากการจัดการขยะที่ไม่ดี และความรู้ความเข้าใจที่ไม่เพียงพอ เกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะที่มาจากอาหาร ซึ่งมีส่วนโดยตรงในการสร้าง 10%ของก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก และก่อให้เกิดปัญหาสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เราจึงนำเสนอ Bio Loop ซึ่งเรานำตัวอ่อนแมลงวันลาย (Black Soldier Fly: BSF) มาใช้เป็นทางเลือกอาหารสัตว์ที่ยั่งยืน ตัวอ่อนแมลงวันลายกินเศษอาหาร รวมถึงเศษผัก ผลไม้ และเศษอาหารทั่วไป ข้อดีคือตัวอ่อนแมลงวันลายมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าและคุ้มค่ากว่าอาหารสัตว์ทั่วไป จึงเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยม” นันนภัส มากบุญ และ กุลณัฎฐ์ น้อยน้ำคำ สมาชิก Team Mamamamoodeng ซึ่งทั้งสองเป็นตัวแทนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบาย 

ปัจจุบัน ทักษะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกำลังแรงงานในอนาคต รายงานที่เผยแพร่โดย MarketsandMarkets (2022) คาดการณ์ว่าตลาดแพลตฟอร์มวิทยาศาสตร์ข้อมูลทั่วโลกจะเติบโตจาก 95.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2021 เป็น 322.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2026 แม้ว่าจำนวนตำแหน่งใหม่ที่ต้องการทักษะดิจิทัล และทักษะที่ได้รับการพัฒนาจะเพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาคอาเซียน แต่รัฐบาลต่างๆ ยังคงตั้งคำถามถึงความพร้อมของกำลังแรงงานรุ่นใหม่ในการตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ จากการศึกษาล่าสุดโดยมูลนิธิอาเซียนและ Google เรื่อง “ตลาดงานและความต้องการทักษะสำหรับอนาคต” (2022) พบว่า 72.2% ของเยาวชนด้อยโอกาส ที่เข้าร่วมการสำรวจจำนวน 1,080คนในภูมิภาคนี้ขาดทักษะดิจิทัลหรือมีทักษะดิจิทัลที่สูงกว่าขั้นพื้นฐานไม่มาก เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โครงการ ASEAN DSE มีเป้าหมายที่จะเติมเต็มช่องว่างนี้โดยการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นให้กับผู้เข้าร่วม เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขายังคงสามารถแข่งขันในตลาดงานที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ได้ 

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคปี ค.ศ. 2025 ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากกระทรวงศึกษาธิการแห่งมาเลเซีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นพันธมิตรหลักตามแนวทางของกิจกรรม ASEAN Chairmanship 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม ค.ศ. 2025 ทางกระทรวงฯ ได้อำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมของผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศและแขกพิเศษ การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของพวกเขาเน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งของการส่งเสริมความรู้และความพร้อมด้านดิจิทัลในหมู่เยาวชนอาเซียนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค นอกจากนี้ การสนับสนุนของกระทรวงฯ ยังมีส่วนสำคัญในการยกระดับภาพลักษณ์ของงานนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดย ดร. โมฮัมหมัด อาซัม อาหมัด ผู้ทรงเกียรติ ซึ่งดำรงตำแหน่ง อธิบดีกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย 

“โครงการ ASEAN DSE เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระดับภูมิภาคที่สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างทักษะสำคัญในอนาคตให้กับเยาวชนของเรา ตลอดเก้าปีที่ผ่านมา โครงการนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความรู้ด้านดิจิทัลในมาเลเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักเรียนและอาจารย์ โครงการนี้สอดคล้องกับแผนการศึกษามาเลเซียของปี ค.ศ. 2015-2025 (การศึกษาระดับอุดมศึกษา) และเป็นการหยิบยื่นเครื่องมือที่จำเป็นให้เยาวชนของเราเพื่อการเติบโตในกำลังแรงงานยุคใหม่และมีส่วนร่วมในการพัฒนาภูมิภาคของเราอย่างยั่งยืน เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อความร่วมมือนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เยาวชนของเรานำพาเราไปสู่อนาคตที่มีการเชื่อมต่อทางดิจิทัลความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น” ดร. โมฮัมหมัด อาซัม อาหมัด ผู้ทรงเกียรติ ซึ่งดำรงตำแหน่ง อธิบดีกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย อธิบดีกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย 

ดร. ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของโครงการนี้ว่า “โครงการ ASEAN DSE เป็นโครงการริเริ่มสำคัญในการส่งเสริมเยาวชนผู้มีความสามารถพิเศษทั่วภูมิภาคของเรา ด้วยการมอบเครื่องมือดิจิทัลและทักษะด้านข้อมูลที่พวกเขาต้องการ เราช่วยให้พวกเขาสามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ และสามารถคิดค้นวิธีแก้ปัญหาที่มีอยู่จริง เชิงนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมทั้งการเติบโตส่วนบุคคลและการพัฒนาอาเซียนโดยรวม” 

ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านแอปพลิเคชันสำหรับธุรกิและ AI ทางธุรกิจ SAP มุ่งมั่นที่จะเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่รับมือกับความซับซ้อนของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นไปที่ทักษะสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ทักษะดิจิทัล และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 

“ความร่วมมือระหว่าง SAP และมูลนิธิอาเซียนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเราในการส่งเสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่ทั่วภูมิภาค เพื่อมอบทักษะที่จำเป็นให้แก่ผู้นำรุ่นต่อไป เพื่อความก้าวหน้าในโลกยุคปัจจุบันที่กำลังพัฒนาและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ด้วยโครงการริเริ่มนี้ เรากำลังช่วยส่งเสริมบุคคนที่มีความสามารถพิเศษด้านเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้พวกเขาสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลกระทบทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในประเทศดังกล่าวเร่งการพัฒนานวัตกรรม” Liher Urbizu, ประธานกรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ SAP เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว 

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2560 โครงการ ASEAN Data Science Explorers (ASEAN DSE) ได้ดำเนินการส่งเสริมศักยภาพเยาวชนอายุ 15-30 ปี จำนวนมากกว่า 111,000 คน รวมถึงเยาวชนจากชุมชนด้อยโอกาส และได้มีส่วนร่วมกับผู้สอนกว่า 3,300 คนทั่วภูมิภาค โดยมีจำนวนผู้หญิงร้อยละ 55 ของผู้รับประโยชน์ทั้งหมด ผ่านการสนับสนุนเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษโครงการนี้มีความสอดคล้องกับแผนงานอาเซียนต่าง ๆ ได้แก่ แผนงานอาเซียนว่าด้วยเยาวชน พ.ศ. 2564-2568 (ASEAN Work Plan on Youth 2021-2025) แผนงานอาเซียนว่าด้วยการศึกษา พ.ศ. 2564-2568 (ASEAN Work Plan on Education 2021-2025) แผนแม่บทดิจิทัลอาเซียน พ.ศ. 2568 (ASEAN Digital Masterplan 2025) และกรอบเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework) ซึ่งมุ่งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนที่สามารถขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วทั้งภูมิภาค

ที่มา: Priority Consultants