อยากส่งของไปพม่าแบบไม่มีปัญหา มีอะไรต้องรู้บ้าง ?

เมียนมา หรือ พม่า ถือเป็นตลาดเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพสูงสำหรับผู้ประกอบการไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ยา เวชภัณฑ์ เครื่องจักร หรือวัสดุก่อสร้าง ด้วยกำลังซื้อที่เติบโตต่อเนื่องและความนิยมในสินค้าไทยที่สูง แต่การส่งของไปพม่าไม่สามารถทำได้ง่ายเหมือนการส่งภายในประเทศ เพราะต้องผ่านระบบโลจิสติกส์ข้ามแดนและพิธีการศุลกากรที่มีกฎระเบียบเฉพาะ ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนขนส่งสินค้าข้ามแดนไปพม่า จำเป็นต้องรู้สิ่งต่อไปนี้ให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้ติดปัญหากลางทาง

ช่องทางการขนส่งหลัก: เลือกให้เหมาะกับสินค้า

การส่งของไปพม่ามีหลายช่องทาง แต่ละช่องทางมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน

  • การขนส่งทางบก: เป็นช่องทางส่งของไปพม่าที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและต้นทุนไม่สูงมากนัก ด่านสำคัญที่ใช้บ่อยคือ ด่านแม่สอด จังหวัดตาก (ตรงข้ามเมืองเมียวดี) และด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย (ตรงข้ามเมืองท่าขี้เหล็ก) ช่องทางนี้เหมาะสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคหรือสินค้าที่มีปริมาณไม่มาก แต่ก็อาจเจอปัญหาเรื่องความล่าช้าจากสภาพถนนหรือขั้นตอนการตรวจปล่อย
  • การขนส่งทางเรือ: เหมาะสำหรับสินค้าปริมาณมาก หรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่ เช่น เครื่องจักร วัตถุดิบ ซึ่งสามารถขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบังหรือท่าเรือกรุงเทพฯ ไปยังท่าเรือในเมียนมา เช่น ท่าเรือติละวา (Thilawa) ใกล้กับย่างกุ้ง แม้จะใช้เวลาขนส่งนานกว่าทางบก แต่ก็มีความปลอดภัยสูงและสามารถรองรับสินค้าได้จำนวนมาก
  • การขนส่งทางอากาศ: เป็นทางเลือกที่รวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง สินค้าที่ต้องการความสดใหม่ หรือสินค้าเร่งด่วน โดยใช้สนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมืองไปยังสนามบินนานาชาติย่างกุ้งหรือมัณฑะเลย์ แต่มีต้นทุนที่สูงกว่าช่องทางอื่น

เอกสารสำคัญ: เตรียมให้พร้อมก่อนล้อหมุน

เอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องคือหัวใจสำคัญของการส่งออก การขาดเอกสารเพียงชิ้นเดียวอาจทำให้สินค้าตกค้างอยู่ที่ด่านเป็นเวลานาน เอกสารที่จำเป็นได้แก่:

  • ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice): แสดงรายละเอียดสินค้า มูลค่า และเงื่อนไขการซื้อขาย
  • ใบแสดงรายการบรรจุสินค้า (Packing List): บอกรายละเอียดการบรรจุ หีบห่อ และน้ำหนักของสินค้า
  • ใบตราส่ง (Bill of Lading – B/L) หรือใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (Air Waybill – AWB): เอกสารหลักฐานการรับสินค้าเพื่อการขนส่ง
  • ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin – C/O): เอกสารที่ยืนยันว่าสินค้าผลิตในประเทศไทย ซึ่งอาจช่วยลดหย่อนภาษีนำเข้าได้ตามข้อตกลงการค้า
  • เอกสารอื่น ๆ: เช่น ใบอนุญาตนำเข้า (Import License) ของผู้รับปลายทาง (ถ้ามี) หรือใบรับรองคุณภาพสินค้าบางประเภท เช่น ใบรับรองสุขอนามัยพืชและสัตว์สำหรับสินค้าเกษตร

พิธีการศุลกากรและภาษี: เข้าใจกฎระเบียบเมียนมา

กฎระเบียบการนำเข้าของเมียนมามีความแตกต่างจากไทย การศึกษาข้อมูลล่วงหน้าจะช่วยให้คุณประเมินต้นทุนและระยะเวลาในการส่งของไปพม่าได้แม่นยำ

  • อัตราภาษีนำเข้า: เมียนมามีอัตราภาษีนำเข้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภทสินค้า ซึ่งโดยปกติจะอยู่ระหว่าง 0% ถึง 40% และยังมีภาษีการค้า (Commercial Tax) ที่ต้องชำระเพิ่มเติม หากสินค้าของคุณมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (C/O) ภายใต้ข้อตกลง AFTA (ASEAN Free Trade Area) อาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
  • สินค้าต้องห้ามและสินค้าควบคุม: เมียนมามีรายการสินค้าต้องห้ามนำเข้า เช่น อาวุธ ยาเสพติด สื่อลามก รวมถึงสินค้าควบคุมที่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าพิเศษ เช่น ยา เวชภัณฑ์ และอาหารบางประเภท
  • ขั้นตอนพิธีการศุลกากร: ผู้รับปลายทางในเมียนมาต้องดำเนินการผ่านระบบการจัดการสินค้าอัตโนมัติ (Myanmar Automated Cargo Clearance System – MACCS) เพื่อยื่นเอกสารและชำระภาษี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการหากเอกสารครบถ้วน

ความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-เมียนมา: โอกาสที่ต้องจับตามอง

ความสัมพันธ์ทางการค้าของสองประเทศนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อตกลงและความร่วมมือที่ส่งเสริมการค้าชายแดน เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ ทั้งในไทยและเมียนมา การทำความเข้าใจภาพรวมเหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้

ข้อควรรู้เพิ่มเติม: ลดความเสี่ยงให้ธุรกิจ

  • การใช้ตัวแทนออกของ (Customs Broker): การจ้างบริษัทตัวแทนออกของที่มีประสบการณ์ส่งของไปพม่าโดยตรงจะช่วยให้การดำเนินพิธีการศุลกากรเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้อง
  • เงื่อนไขทางการค้า (Incoterms): การตกลงเงื่อนไขการค้ากับคู่ค้าอย่างชัดเจน เช่น EXW, FOB, CIF จะช่วยกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนได้ดี
  • สถานการณ์ปัจจุบัน: การติดตามสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งโดยตรง

การส่งของไปพม่าไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิด หากคุณมีการวางแผนที่ดี เตรียมเอกสารอย่างครบถ้วน และเข้าใจกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การทำความเข้าใจขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถนำสินค้าไปสู่มือลูกค้าในเมียนมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ที่มา: SCGJWD LOGISTICS