ในงาน SAP Connect ครั้งแรก SAP SE (NYSE: SAP) ได้แสดงให้เห็นว่าการผสานรวม AI ข้อมูล และแอปพลิเคชันเข้าด้วยกันสามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างไร นวัตกรรมเหล่านี้ รวมถึง เครือข่ายผู้ช่วยแบบกำหนดตามบทบาท (role-based assistants) ใน Joule ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ระบบนิเวศข้อมูล (data ecosystem) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนการวิเคราะห์เชิงลึก และ ซอฟต์แวร์ด้านซัพพลายเชน ที่สามารถคาดการณ์และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า กำลังปฏิวัติรูปแบบการดำเนินธุรกิจอีกครั้งอย่างแท้จริง
“ในยุคที่ความผันผวนกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ ธุรกิจต้องการมากกว่าการรวบรวมแอปพลิเคชันที่แยกส่วนแบบ best-of-breed” Muhammad Alam กรรมการบริหาร SAP SE ฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิศวกรรม กล่าว “สิ่งที่เราประกาศในวันนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของ SAP Business Suite ที่ผสาน AI ข้อมูล และแอปพลิเคชัน เข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถ ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดขึ้น ดำเนินงานได้รวดเร็วขึ้น และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่องและขยายผลได้จริง”
AI ที่ทำงานเคียงข้างมนุษย์
SAP เผยโฉมพัฒนาการขั้นต่อไปของ Joule ในฐานะพลังขับเคลื่อนด้าน AI ที่อยู่ศูนย์กลางของการสร้างคุณค่าใน SAP Business Suite โดย Joule จะเชื่อมโยงข้อมูลและแอปพลิเคชันจากทั่วทั้งระบบ SAP Business Suite เพื่อเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะยุคใหม่ที่ เข้าใจบทบาท (Role-aware Assistants) ของผู้ใช้แต่ละคนในธุรกิจอย่างแท้จริง ผู้ช่วยแต่ละรายใน Joule ถูกออกแบบมาเพื่อทำงาน เคียงข้างมนุษย์ในบทบาททางธุรกิจเฉพาะของตน โดยผู้ช่วยเหล่านี้จะเข้าถึงเอเจนต์ที่เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท พร้อมทั้งกำหนดค่า ประสานงาน และจัดการการทำงานของเอเจนต์เหล่านั้น เพื่อให้มนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่การปลดล็อกศักยภาพใหม่ ๆ ด้านข้อมูลเชิงลึกและประสิทธิภาพการทำงานได้เต็มที่
อยู่เบื้องหลังผู้ช่วยใน Joule คือ คลัง Joule Agents ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วยเอเจนต์เฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อช่วยดำเนินเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนในแต่ละฟังก์ชัน ตัวอย่างเช่น People Manager Assistant จะประสานงานกับทีมของเอเจนต์เฉพาะทาง รวมถึง People Intelligence Agent ตัวใหม่ ที่ช่วยระบุและแก้ไขประเด็นต่าง ๆ เช่น ความผิดปกติด้านค่าตอบแทน เพื่อสนับสนุนผู้จัดการในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพทีม Financial Planning Assistant รุ่นใหม่ จะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเอเจนต์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น Cash Management Agent ตัวใหม่ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระแสเงินสดและปรับปรุงผลตอบแทนจากดอกเบี้ย เพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินสามารถขับเคลื่อนประสิทธิภาพได้ รายชื่อผู้ช่วย AI ใหม่ที่รับรู้บทบาทเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ร่วมมือกับผู้คนเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานในสายงานธุรกิจของตนเท่านั้น แต่ยังทำงานร่วมกันข้ามฟังก์ชันทางธุรกิจเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนในระดับองค์กรอีกด้วย
ข้อมูลที่ไร้ขอบเขต
ข้อมูลคือเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนพลังการเปลี่ยนแปลงของ AI แต่ในความเป็นจริง ข้อมูลมักถูกแยกเก็บไว้ในระบบต่าง ๆ (data silos) ภายในองค์กร ในงาน SAP Connect ครั้งนี้ SAP ได้ขจัดอุปสรรคเหล่านั้นด้วยการเปิดตัว SAP Business Data Cloud Connect (SAP BDC Connect) โซลูชันที่เชื่อมต่อ SAP Business Data Cloud (SAP BDC) เข้ากับแพลตฟอร์มของพันธมิตรได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงธุรกิจ (business-ready data products) ได้แบบสองทาง ข้ามขอบเขตของทั้งองค์กรและเทคโนโลยี
ด้วยการแชร์ข้อมูลแบบ zero-copy sharing ข้อมูลจะยังคงปลอดภัยอยู่ในระบบของ SAP แต่สามารถเข้าถึงได้ทันทีจากแพลตฟอร์มข้อมูลเดิมของลูกค้า โดยคงบริบททางธุรกิจไว้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการคัดลอก ผลลัพธ์ที่ได้คือ การแยกเก็บข้อมูลน้อยลง ขั้นตอนการทำงานง่ายขึ้น ไม่มีการซ้ำซ้อนของข้อมูล และได้ข้อมูลที่เชื่อถือได้เมื่อและที่ต้องการใช้
นอกจากนี้ SAP ยังประกาศว่า Databricks และ Google Cloud คือพันธมิตรรายแรกที่เปิดใช้งานร่วมกับ SAP BDC Connect โดยจะมีพันธมิตรเพิ่มเติมตามมาในอนาคต ทั้งนี้ ตามที่ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 SAP Databricks จะยังคงเป็นบริการข้อมูลภายใน SAP Business Data Cloud ขณะที่ SAP BDC Connect จะขยายศักยภาพนี้ไปยังระบบนิเวศข้อมูลแบบเปิด พันธมิตรเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกสำหรับ การวิเคราะห์และ AI ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้ทีมสามารถเปลี่ยนจากข้อมูลดิบไปสู่ ผลลัพธ์ทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ ได้อย่างรวดเร็วและเรียบง่ายกว่าเดิม
แอปพลิเคชันที่เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นการลงมือทำ
หัวใจสำคัญของคุณค่าที่โดดเด่นของ SAP คือ แอปพลิเคชันสำหรับองค์กร ที่เป็นจุดกำเนิดของข้อมูลและเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้ได้สัมผัสพลังของ AI และข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ SAP Supply Chain Orchestration คือโซลูชันใหม่ที่พัฒนาโดยใช้ AI เป็นแกนหลัก (AI-native solution) ซึ่งผสานพลังของ Joule เข้ากับ live knowledge graph เพื่อช่วยตรวจจับความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ในห่วงโซ่อุปทานหลายชั้น และประสานการตอบสนองอย่างเป็นระบบ ช่วยให้องค์กรลดต้นทุนและรักษาความต่อเนื่องของการดำเนินงานในห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ SAP Engagement Cloud โซลูชันประสบการณ์ลูกค้ารุ่นใหม่ ใช้บริบททางธุรกิจที่สำคัญ (business-critical context) เพื่อปรับการสื่อสารและการมีส่วนร่วมให้เหมาะกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละรายอย่างเฉพาะตัว ขณะเดียวกัน SAP Ariba รุ่นถัดไป ซึ่งเป็นชุดโซลูชันจัดซื้อจัดจ้าง (procurement suite) ที่พัฒนาโดยใช้ AI ตั้งแต่ต้น (AI-native) ก็ช่วยเสริมความฉลาดในทุกขั้นตอนของการบริหารจัดการการใช้จ่าย ตั้งแต่การจัดหาแหล่งซัพพลาย ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้จัดจำหน่าย
โดยรวมแล้ว นวัตกรรมใหม่เหล่านี้ใน SAP Business Suite ถือเป็นการเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ข้อมูล และแอปพลิเคชัน ที่เกื้อหนุนกันและกัน เพื่อผลักดันความ ชาญฉลาด ความรวดเร็ว และความยืดหยุ่น ในการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง
เยี่ยมชม SAP News Center เพื่ออ่านข่าวสารเพิ่มเติมจาก SAP ติดตามข่าวล่าสุดผ่าน LinkedIn และ Bluesky
