สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และบริษัท ไทม์ คอนซัลติ้ง จำกัด ร่วมกันจัดงาน Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2024 โดยเรียนเชิญหน่วยงานรัฐ หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (CII) หน่วยงานกำกับดูแล บริษัทเอกชน ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัย (CERT) ผู้ใช้บริการคลาวด์ (CSC) และผู้ให้บริการคลาวด์ (CSP) ร่วมงานมอบรางวัล “Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2024” เพื่อส่งเสริมและเชิดชูองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประเทศในยุคดิจิทัล พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาคอาเซียน งานนี้ถือเป็นเวทีระดับประเทศที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีบทบาทสำคัญในวงการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์มาร่วมแสดงศักยภาพและแลกเปลี่ยนความรู้
เวทีการรับรางวัล Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2024 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับขีดความสามารถของหน่วยงานในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (CII) ให้สามารถรับมือกับความเสี่ยงและภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้นในยุคดิจิทัล อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 และมาตรฐานสากล เช่น ISO 27001 และ GDPR โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การสร้างความเชื่อมั่นในระบบดิจิทัลจึงมีความสำคัญยิ่ง ทั้งในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล การให้บริการภาครัฐที่โปร่งใส และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน
โดยบริษัท ไทม์ คอนซัลติ้ง จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและด้านไซเบอร์ซีคิวริตี้ ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ให้เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการตรวจสอบและประเมินผลคะแนนของหน่วยงานที่เข้าร่วมประกวดรางวัล “หน่วยงานยอดเยี่ยมด้าน Cybersecurity” โดยรางวัลนี้จัดทำขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งบริษัท ไทม์ คอนซัลติ้ง จำกัด ได้นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเกณฑ์การประเมินและวิธีการตรวจสอบที่เป็นระบบและโปร่งใส อย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าการประเมินรางวัลครั้งนี้สะท้อนถึงมาตรฐานที่น่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับในระดับประเทศ
ภายในงานได้มีการสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับด้านไซเบอร์ และการประกาศรับรางวัลซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมากกว่า 300 หน่วยงาน เพื่อยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับประเทศ โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 3 กลุ่มหลัก รวม 11 ประเภทรางวัล ดังนี้ Best Performance Award มอบให้หน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เช่น สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ธนาคารกสิกรไทย MODCSIRT การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โรงเรียนลำปางกัลยาณี และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา Most Contribution Award มอบให้หน่วยงานที่มีส่วนร่วมสำคัญในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เช่น องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัท คลาวด์ เอชเอ็ม จำกัด และ Cybersecurity Industry Promotion and Support Award มอบให้หน่วยงานที่ช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
รางวัลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ และสนับสนุนความก้าวหน้าของประเทศในด้านดิจิทัล ซึ่งเป็นตัวเร่งสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักลงทุน พร้อมทั้งวางรากฐานที่มั่นคงเพื่ออนาคตดิจิทัลของประเทศไทย
งาน “Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2024” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และบริษัท ไทม์ คอนซัลติ้ง จำกัด เพื่อส่งเสริมและเชิดชูองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาคอาเซียน งานนี้รวบรวมหน่วยงานกว่า 300 แห่งจากภาครัฐและเอกชน แบ่งรางวัลออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Best Performance Award, Most Contribution Award และ Cybersecurity Industry Promotion and Support Award โดยมีเป้าหมายยกระดับความสามารถในการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ส่งเสริมการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 27001 และ GDPR และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ นอกจากนี้ งานยังช่วยสร้างความตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ เสริมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในระดับภูมิภาค.
