แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่และสนับสนุนการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมหาดใหญ่ของทีม SEhRT กรมอนามัย ระหว่าง วันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2568 กระจายลงพื้นที่ กว่า 20 ชุมชน รวมกว่า 1200 หลังคาเรือน สิ่งที่พบ คือ น้ำประปาบางจุดยังไหลอ่อน และเฝ้าระวังคลอรีนในน้ำประปาไม่พบคลอรีนตกค้าง เช่น ชุมชนริมทางรถไฟหาดใหญ่ คลองเตย และชุมชนรอบสนามกีฬาจิระนคร น้ำประปาไหลอ่อนหรือไม่ไหล และตรวจไม่พบคลอรีนตกค้างต่ำกว่าเกณฑ์ 0.2 mg/L พบปริมาณขยะจำนวนมาก และบางพื้นที่ยังมีน้ำขังและซากสัตว์เน่าเปื่อย ซึ่งอาจเป็นแหล่งเพาะโรคหลังน้ำท่วมและส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยจึงเร่งแก้ไขคุณภาพน้ำ จัดการขยะในชุมชน และใหเคำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการใช้น้ำอย่างปลอดภัย ได้แก่ การทำความสะอาดก๊อกและถังเก็บน้ำ ตรวจรอยรั่วซึม ปล่อยน้ำขุ่นทิ้ง และต้มน้ำก่อนบริโภค สำหรับการจัดการขยะ กรมอนามัยได้แนะนำให้แยกขยะอินทรีย์ ซากสัตว์ และเศษอาหาร โดยบรรจุถุงดำ โรยปูนขาว และนำไปพักรอรถเก็บ นอกจากนี้ยังได้โรยปูนขาวในจุดน้ำขังและบริเวณน้ำชะขยะ เพื่อลดกลิ่นและป้องกันการแพร่เชื้อโรค รวมทั้ง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครัวกลางและครัวอาสา ที่จัดทำอาหารแจกจ่ายประชาชน เพื่อให้การปรุงประกอบเป็นไปตามหลักสุขาภิบาลอาหาร
นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า แนวทางการรับมือสถานการณน้ำท่วมที่กรมอนามัยลงพื้นที่ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มการใช้ EM เพื่อเร่งย่อยสลายขยะและลดกลิ่นประสานงานกับท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในการขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยทีม SEhRT พร้อมสนับสนุนด้านวิชาการและสุขาภิบาลอย่างใกล้ชิด สำหรับประชาชน กรมอนามัยได้นำวัสดุและเวชภัณฑ์ลงพื้นที่ รวมถึง ยาสามัญประจำบ้าน ชุดเราสะอาด (V-Clean) ถุงดำ หน้ากากอนามัย คลอรีนเม็ด น้ำยา EM ยาป้องกันโรคฉี่หนู (Doxy) ยาทากัดเท้า และน้ำดื่มบรรจุขวด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหลังน้ำท่วมและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

