สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) แนะผู้ปกครองสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ระวังป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) โดยเฉพาะขณะนี้มีฝนตกในหลายพื้นที่ เน้นย้ำ ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด สังเกต”

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) เกิดจากการที่ผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัสอาร์เอสวี ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ สามารถพบผู้ป่วยได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่อาการ   จะรุนแรงในเด็กเล็ก และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี รวมถึงผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง จะพบบ่อยในฤดูฝนและฤดูหนาว อาการโดยทั่วไปคล้ายไข้หวัดธรรมดา โดยเริ่มแรกจะมีอาการเพียงเล็กน้อย ได้แก่ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจหอบเหนื่อย อกบุ๋ม ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ หายใจมีเสียงหวีด รับประทานอาหารได้น้อยและซึมลง การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ  

การป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า สคร.12 สงขลา แนะนำผู้ปกครอง สังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 5 ปี เน้นย้ำ ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยงหยุด สังเกต” ปิด: ปิดปาก จมูก ด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชูเมื่อไอหรือจาม และสวมหน้ากากอนามัยหากป่วย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ล้าง: ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสสิ่งของที่อาจมีเชื้อ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได หรือราวบนรถโดยสาร หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณหน้า ตา จมูก ปาก ทำความสะอาดบ้านและสิ่งของ ของเล่น ที่สัมผัสเป็นประจำ    เลี่ยง: หลีกเลี่ยงพาเด็กไปเล่นในสถานที่แออัด หรืออยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก ตลาด ฯลฯ หยุด: เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และ สังเกต: หากมีอาการหายใจ    มีเสียงหวีด หอบเหนื่อยง่าย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป

สำหรับสถานศึกษา 1. จัดให้มีระบบการคัดกรองนักเรียนป่วยก่อนเข้าสถานศึกษา 2. หากพบว่ามีนักเรียนป่วย อาจพิจารณาปิดสถานศึกษาและทำความสะอาด เพื่อชะลอการระบาดของโรคและลดการแพร่กระจายเชื้อ (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสถานศึกษา) 3. โรงเรียนควรทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและนักเรียนถึงความจำเป็นที่จะต้องให้นักเรียนที่ป่วยหยุดเรียน 4. การจัดการภายในสถานศึกษา 4.1 สถานศึกษาจัดเตรียมจุดล้างมือ (น้ำพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์) เน้นห้องน้ำและโรงอาหาร 4.2 ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสร่วม เช่น ราวบันได เครื่องเล่นคอมพิวเตอร์ จุดตู้น้ำดื่มเป็นประจำ 4.3 จัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ ณ ห้องพยาบาล 4.4 จัดกิจกรรมออกกำลังกาย เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน 4.5 ให้นักเรียนจัดเตรียมแก้วน้ำและช้อนรับประทานอาหาร   เป็นของตนเอง หากพบการเจ็บป่วยเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียน ให้รีบแจ้งหน่วยงานสาธารณสุข ในพื้นที่เพื่อทำการควบคุมโรค สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 

 

ที่มา: สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา