กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย จัดประชุมวิชาการ ASEAN Breastfeeding Forum 2025 โดยมี แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย แพทย์หญิงทิพา ไกรลาศ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ ผู้เข้าร่วมจากประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน กว่า 200 คน ณ ห้องฟีนิกซ์ อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ โซนอาคาร 9 – 12 จังหวัดนนทบุรี
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ASEAN Breastfeeding Forum 2025 ในครั้งนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญในการรวมพลังของประเทศสมาชิกอาเซียน และพันธมิตรด้านสุขภาพ เพื่อขับเคลื่อนการปกป้อง ส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครองสิทธิ ให้เด็กที่เกิดมาได้กินนมแม่ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเจริญเติบโต พัฒนาการ และสุขภาพของเด็กในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้ง เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียน ให้มีการขับเคลื่อนนโยบายนมแม่อย่างบูรณาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ได้ผล พร้อมทั้งหารือแนวทางการยกระดับนมแม่ ให้เป็นวาระร่วมระดับภูมิภาค ตาม “International Code of Marketing of Breastmilk Substitutes” ตามเป้าหมาย SDGs และส่งเสริมบทบาทของผู้นำประเทศ ในการขับเคลื่อนวาระนมแม่ให้เป็น “นโยบายหลักด้านสุขภาพแห่งชาติ” ของทุกประเทศสมาชิก เพราะการลงทุนในนมแม่ คือ การลงทุนเพื่ออนาคตของอาเซียน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่เพียงแต่ช่วยลดการเสียชีวิตของทารก ป้องกันโรคภูมิแพ้ โรคติดเชื้อ และโรคไม่ติดต่อในระยะยาว ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และสร้างทุนมนุษย์คุณภาพสูง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน
“ทั้งนี้ ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคอาเซียน ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และดำเนินมาตรการมากมาย เพื่อเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่น การผลักดันนโยบายในระดับชาติ การให้บริการตามมาตรฐานโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก (BFHI) การพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมถึงการดำเนินมาตรการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารทดแทนนมแม่ จากรายงานขององค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟล่าสุด อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวใน 6 เดือนแรก ในกลุ่มประเทศอาเซียนยังคงมีความแตกต่างกัน ตั้งแต่ระดับต่ำกว่า ร้อยละ 30 ไปจนถึงมากกว่า ร้อยละ 60 ซึ่งหลายประเทศยังต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตลาดของอาหารทดแทนนมแม่ที่ไม่เหมาะสม ระบบสนับสนุนในสถานประกอบการ และชุมชนที่ยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะการลาคลอดและเลี้ยงดูบุตรที่ไม่เพียงพอ และการขาดพื้นที่มุมนมแม่ในที่ทำงาน รวมไปถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงข้อมูล และบริการ ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่” อธิบดีกรมอนามัย
ด้าน นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ASEAN Breastfeeding Forum 2025 ถือเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และ ศึกษาดูงานการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (คลินิกนมแม่) การส่งต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของโรงพยาบาลนครปฐม/เครือข่ายบริการปฐมภูมิ ชุมชนส่งเสริมนมแม่ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี การเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากวิทยากรมากมาย อาทิ WHO (representative from Thailand office) Mueni Mutunga, UNICEF East Asia and the Pacific Regional Office และ Ms. Xiaoyan Qian, ILO เป็นต้น การนำเสนอพันธสัญญาปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับนมแม่ ซึ่งกรมอนามัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความรู้ ประสบการณ์ และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในเวทีแห่งนี้ จะไม่สิ้นสุดลงพร้อมกับการประชุม แต่จะยังคงงอกงามและขยายผลไปในเชิงนโยบายการปฏิบัติ และความร่วมมือระหว่างประเทศต่อไป
