กทม.แนะคนกรุงในพื้นที่เสี่ยงดูแลสุขภาพ ป้องกันเจ็บป่วยจากโรคไข้ดิน-โรคไข้ฉี่หนูช่วงหน้าฝน

นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคเมลิออยโดสิส (โรคไข้ดิน) และโรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า แม้พื้นที่กรุงเทพฯ จะไม่ใช่พื้นที่ระบาดหลักของโรคดังกล่าวเมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลสังกัด กทม. ได้แก่ ฤดูฝน สถานการณ์น้ำท่วม โดยหากปี 2568 กรุงเทพฯ ประสบปัญหาน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน หรือมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก การประกอบอาชีพและกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้ที่ทำงานก่อสร้าง รับจ้าง และผู้ที่ต้องสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่มีความชื้นและดินอาจมีความเสี่ยงสัมผัสกับเชื้อ รวมถึงการย้ายถิ่นฐานของผู้ป่วย โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากต่างจังหวัดแล้วเดินทางมารักษาในโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลในสังกัด

สำหรับการเตรียมพร้อมเฝ้าระวังเชิงรุกในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงสูง (พื้นที่ที่มีผู้ป่วยเมื่อปีก่อน) สนพ. ได้อาศัยข้อมูลทางระบาดวิทยาในการพยากรณ์แนวโน้มการระบาดของโรค หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายสงสัย แนะนำให้เข้ารักษาตามสถานพยาบาล ห้ามรักษาตามบ้าน หรือซื้อยามารับประทานเอง เพราะโรคนี้ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนมาตรการป้องกันเชิงรุก เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ดำเนินการ สร้างความตระหนักรู้ ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับอาการของโรค ปัจจัยเสี่ยง และวิธีการป้องกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน โดยแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ หรือดินที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หากจำเป็นต้องสวมรองเท้าบูท ถุงมือ หรืออุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม ส่วนการเฝ้าระวังผู้ป่วย สถานพยาบาลในสังกัดควรเฝ้าระวังและวินิจฉัยโรคทั้งสองอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว และมีประวัติสัมผัสกับดินหรือน้ำ เพื่อให้การรักษาได้ทันท่วงทีและลดอัตราการเสียชีวิต

นอกจากนี้ ยังได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ชุมชนใกล้แหล่งน้ำ พร้อมทั้งมอบหมายให้โรงพยาบาลในสังกัดทั้ง 11 แห่ง ให้ความรู้แก่ประชาชนที่มารับบริการและประชาชนในพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลให้มีความตระหนักในการดูแลและป้องกันสุขภาพของตนเอง หากสงสัยในอาการเจ็บป่วยสามารถพบแพทย์ผ่านทาง Telemedicine แอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว สามารถปรึกษาเรื่องสุขภาพ โทร. HOTLINE 1646 สายด่วนสุขภาพ สนพ. ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: กรุงเทพมหานคร