นายบำรุง สำเนียงงาม ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม. กล่าวกรณีข้อวิจารณ์ภาคเอกชนเตรียมจัดงานจุดพลุเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บริเวณใจกลางถนนสุขุมวิท ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 3 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้แก่ สถานีอโศก พร้อมพงษ์ และทองหล่อ เกรงจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่พักอาศัยบริเวณดังกล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) สถานีดับเพลิงและกู้ภัยคลองเตย และสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่รับผิดชอบ นัดหมายลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสถานที่จัดงานและจุดที่จะมีการจุดพลุ เพื่อกำชับให้ปฏิบัติตามแผนการป้องกันเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้มีหนังสือแจ้งผู้จัดงานให้ปฏิบัติตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน พ.ศ. 2561 พร้อมทั้งให้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้ถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ยังได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตคลองเตยในช่วงเทศกาล ปีใหม่ ประจำปี 2569 เพื่อกำกับติดตามมาตรการป้องกันอัคคีภัยและสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ประกาศ กทม. เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง
นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวว่า ภาคเอกชนได้ยื่นหนังสือขออนุญาตจุดพลุ โดยมีกำหนดจุดพลุในเวลา 00.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 69 ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบคำขอในเบื้องต้นแล้ว พบว่ายังไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของข้อบัญญัติ กทม. และประกาศ กทม. ที่เกี่ยวข้อง จึงได้หารือร่วมกับผู้ขออนุญาต และผู้ขออนุญาตยินดีปรับแผนการจัดกิจกรรมใหม่ โดยเปลี่ยนจากการจุดพลุในพื้นที่ครอบคลุม 3 สถานี เป็นการจุดไฟประดับ (Searchlight) แทน และคงเหลือการจุดพลุเพียง 1 จุด คือ บริเวณศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้ยื่นคำขอจัดส่งเอกสารประกอบการพิจารณาให้ครบถ้วน อาทิ หนังสือรับรองบริษัท หนังสือมอบอำนาจ แผนการป้องกันเหตุอัคคีภัย แผนผังบริเวณที่จะจุดและปล่อย รวมถึงเอกสารแสดงแหล่งที่มาของพลุและใบอนุญาตค้าดอกไม้เพลิง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด
ขณะเดียวกัน สำนักงานเขตฯ ได้ย้ำถึงหลักเกณฑ์ตามข้อบัญญัติ กทม. พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดให้ผู้ขออนุญาตต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี เป็นเจ้าของสถานที่จัดกิจกรรม การขออนุญาตให้ยื่นคำขออนุญาตและแผนการป้องกันเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมแผนผังบริเวณที่จะจุดและปล่อยต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่ พลุต้องมีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อไม่เกิน 12 นิ้ว และสถานที่ที่จุดพลุและปล่อย หรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้พลุ หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศต้องอยู่ห่างจากเขตพระราชฐาน คลังน้ำมัน แหล่งเก็บเชื้อเพลิง สถานีบริการเชื้อเพลิง หรือโรงพยาบาล ไม่น้อยกว่า 200 เมตร โดยการจุดพลุสามารถกระทำได้เฉพาะในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในช่วงคืนวันที่ 31 ธ.ค. ของทุกปี โดยให้จุดและปล่อย ในช่วงเวลา 23.00–01.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. ของทุกปี
พร้อมกันนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์ประกาศ กทม. เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ผ่านทางเฟซบุ๊ก พร้อมทั้งปิดประกาศ ณ สำนักงานเขตวัฒนา และแจ้งผู้ขออนุญาตให้ประชาสัมพันธ์แก่ผู้พักอาศัยและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้รับทราบถึงการจัดกิจกรรมและมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันอันตรายและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยกำชับให้ถือปฏิบัติและดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดพลุอย่างเคร่งครัด รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการพิจารณาความเหมาะสมของการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
