การประชุมวิทยาศาสตร์เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ประจำปี 2568
พิธีเปิดการประชุมวิทยาศาสตร์เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area Science Forum) ประจำปี 2568 ได้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการที่เมืองกว่างโจว เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา การประชุมครั้งนี้มีธีมหลักอยู่ที่ “การรวมภาคอุตสาหกรรมและการวิจัย เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมอัจฉริยะในเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม ที่เกิดจากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา องค์กรวิจัย และผู้ใช้งาน พร้อมกำหนดทิศทางที่ปฏิบัติได้จริง เพื่อเชื่อมโยงนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับการพลิกโฉมอุตสาหกรรม
ไป๋ ชุนหลี่ (Bai Chunli) ประธานผู้ก่อตั้งสมาพันธ์องค์กรวิทยาศาสตร์แห่งชาติและนานาชาติเพื่อภูมิภาคหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (ANSO) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโลกกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ซึ่งจะมีส่วนในการกำหนดภูมิทัศน์การแข่งขันระหว่างประเทศในอนาคต โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA) มีความโดดเด่นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ โครงสร้างเชิงสถาบันที่มีการบูรณาการ ระบบอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง และการเป็นศูนย์กลางชั้นนำในการเปิดประเทศ ซึ่งความได้เปรียบทั้งสามนี้เป็นรากฐานที่มั่นคงในการผลักดันยุทธศาสตร์ชาติในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ก้าวไปอีกขั้น ท่านได้เสนอ 3 แนวทางริเริ่ม ได้แก่ การดำเนินงานอย่างเป็นระบบในการวิจัยพื้นฐานและขับเคลื่อนวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทางยุทธศาสตร์ เพิ่มพูนประสิทธิภาพโดยรวมด้วยการบูรณาการงานวิจัย สถาบันการศึกษา และภาคอุตสาหกรรมอย่างครอบคลุม และส่งเสริมความร่วมมืออย่างเปิดกว้างในระดับที่สูงขึ้น การประชุมวิทยาศาสตร์เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า จะยังคงทำหน้าที่เป็นประตูสู่ระดับโลก เพื่ออำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนทรัพยากรนวัตกรรมข้ามพรมแดน กระตุ้นให้เกิดการนำผลงานวิจัยสำคัญไปประยุกต์ใช้ในเขต GBA อย่างเป็นรูปธรรม และเสริมสร้างสถานะของเขตนี้ให้เป็นฟันเฟืองหลักในเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก
คุณไป๋ ชุนหลี่ ยังเปิดเผยข้อมูลว่า เขต GBA มีอัตราส่วนความเข้มข้นในการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) เกิน 4.5% และดึงดูดบุคลากรผู้มีความสามารถระดับสูงของจีนได้ถึง 30% นอกจากนี้ มูลค่าเพิ่มที่มาจากอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงยุทธศาสตร์ ยังคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ยิ่งไปกว่านั้น ประสิทธิภาพในการถ่ายโอนองค์ประกอบด้านนวัตกรรมข้ามพรมแดน ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 37% และดัชนีความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับภูมิภาค ได้พุ่งไปถึงระดับ 189.6 ตัวเลขเหล่านี้ล้วนเน้นย้ำนัยสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ในฐานะแหล่งรวมนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับประเทศอย่างแท้จริง
ในพิธีเปิดการประชุมครั้งนี้ มหาวิทยาลัยชั้นนำรวม 12 แห่งจากฮ่องกงและมาเก๊า ได้ร่วมลงนามในข้อริเริ่มเพื่อแสดงเจตจำนงในการพัฒนาเขต GBA ให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสากล โดยมหาวิทยาลัยที่ร่วมลงนาม ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง (กว่างโจว) มหาวิทยาลัยมาเก๊า มหาวิทยาลัยปักกิ่งนอร์มัล-มหาวิทยาลัยฮ่องกงแบ๊บติสต์ มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง มหาวิทยาลัยฮ่องกงแบ๊บติสต์ มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง มหาวิทยาลัยซิตี้แห่งฮ่องกง มหาวิทยาลัยซิตี้แห่งฮ่องกง (ตงกวน) มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเก๊า มหาวิทยาลัยฮ่องกง และมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (เซินเจิ้น) สถาบันการศึกษาเหล่านี้ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ แบ่งปันความรู้ เสริมพลังภาคอุตสาหกรรม และแลกเปลี่ยนบุคลากรผู้มีความสามารถ เพื่อขับเคลื่อนให้เขต GBA เป็นผู้นำในการสร้างแนวคิดการทำงานที่เปิดกว้างและเน้นนวัตกรรมที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก
สภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนได้นำเสนอความคืบหน้าของแผนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในมณฑลกวางตุ้ง ขณะที่เมืองกว่างโจวได้มีการประกาศใช้นโยบายส่งเสริมความก้าวหน้า โดยบูรณาการนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เชื่อมโยงและเติบโตควบคู่ไปกับนวัตกรรมภาคอุตสาหกรรม
การประชุมวิทยาศาสตร์เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ครั้งนี้ริเริ่มโดย ANSO และจัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และรัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊า เวทีนี้ได้เชิญนักวิทยาศาสตร์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ องค์กร ธุรกิจ และวิชาการ รวมกว่า 50 ท่าน ร่วมแลกเปลี่ยนหารือกันในประเด็นหลักที่น่าสนใจ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ชีววิทยาศาสตร์ พลังงานสะอาด การสื่อสารผ่านเครือข่าย และเศรษฐกิจการบินระดับต่ำ เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและกำหนดกลยุทธ์ในการผลักดันเขต GBA ให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในระดับโลก
ที่มา: การประชุมวิทยาศาสตร์เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ประจำปี 2568
