นายปิยะ พูดคล่อง ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีพบสติกเกอร์ Telegram ค้ายาเสพติดบริเวณเสาไฟฟ้าและพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ รวมทั้งแนวทางการดำเนินการตามกฎหมาย หากพบการใช้พื้นที่สาธารณะอย่างไม่ถูกต้องว่า การติดสติกเกอร์ Telegram ค้ายาเสพติดบริเวณเสาไฟฟ้าและพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ อาทิ ย่านอ่อนนุช ซึ่งมาจากกลุ่มนักค้ายาต่างชาติ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 การโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศ หรือใบปลิวในที่สาธารณะ ซึ่งจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับหนังสืออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนดในหนังสืออนุญาตด้วย โดยผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท และมาตรา 45 กำหนดว่า “กรณีไม่อาจทราบตัวผู้กระทำผิด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นนั้นทุกคนร่วมกันขจัด หรือแก้ไขไม่ให้สิ่งผิดกฎหมายปรากฏอีกต่อไป”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สนท. และสำนักงานเขตฯ ได้กวดขันผู้ที่ฝ่าฝืนติดตั้งป้ายโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งร่วมกันขจัด หรือแก้ไขไม่ให้สิ่งผิดกฎหมายปรากฏ เนื่องจากไม่พบผู้กระทำความผิด และการดำเนินคดีเมื่อพบผู้กระทำความผิด โดยสถิติการดำเนินการตั้งแต่ปี 2561 ได้จัดเก็บ 279,032 ป้าย แจ้งความดำเนินคดี 55 ราย และเปรียบเทียบปรับ 7,531 ราย เป็นเงิน 22,675,800 บาท สำหรับกรณีดังกล่าว สนท. จะเพิ่มมาตรการและกำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่องมากขึ้น รวมถึงบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดี หรือบังคับการในส่วนที่หน่วยงานนั้นรับผิดชอบต่อไป
นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวว่า กทม. มีนโยบายดูแลรักษาความสะอาดพื้นที่สาธารณะให้สะอาด โดยได้มอบหมายเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลรักษาความสะอาดที่สาธารณะ ทั้งการกวาดถนนและทางเท้าให้สะอาด ไม่มีขยะ ฝุ่นละออง รวมถึงจัดเก็บสติกเกอร์ต่าง ๆ ที่ติดไว้บนเสาไฟฟ้า ตู้โทรศัพท์ ราวเหล็ก กำแพง และเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ ส่วนกรณีที่พบการติดสติกเกอร์ Telegram ค้ายาเสพติดบริเวณเสาไฟฟ้าและพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ สสล. ได้แจ้งสำนักงานเขต 50 เขต และเจ้าหน้าที่สวนสาธารณะดำเนินการตรวจสอบและเร่งจัดเก็บสติกเกอร์ดังกล่าวส่งไปกำจัดต่อไป เพื่อความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
