สนามบินกว่างโจว ไป๋อวิ๋น เปิดอาคารผู้โดยสาร 3 ประเดิมเที่ยวบินปฐมฤกษ์ด้วยเครื่องบิน C919 ฝีมือจีน

ท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น

ท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น เปิดใช้อาคารผู้โดยสาร 3 อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการทะยานขึ้นอย่างราบรื่นของเที่ยวบิน MU6308 สายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ซึ่งดำเนินการโดยเครื่องบิน C919 มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ต้าซิง นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ขับเคลื่อนสนามบินไป๋อวิ๋นสู่การดำเนินงานยุคใหม่ที่ประกอบด้วย “รันเวย์ 5 เส้น และอาคารผู้โดยสาร 3 อาคาร” ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันอันทรงพลังในการพัฒนากลุ่มสนามบินระดับโลก และเร่งให้กว่างโจวบรรลุเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินและประตูสู่นานาชาติที่ครบวงจรและครอบคลุมการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ

C919 ทำการบินเที่ยวบินปฐมฤกษ์: ผู้โดยสารร่วมเป็นสักขีพยานนาทีประวัติศาสตร์

ในช่วงบ่ายของวันเปิดตัว สนามบินไป๋อวิ๋นได้จัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์อย่างรื่นเริงและอบอุ่น ณ อาคารผู้โดยสาร 3 ผู้โดยสาร “ผู้โชคดี” ทุกคนบนเที่ยวบิน MU6308 ซึ่งเป็นเที่ยวบินแรกที่เดินทางออกจากอาคารผู้โดยสาร 3 ได้รับของที่ระลึกที่สนามบินไป๋อวิ๋นและสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ร่วมกันจัดเตรียมเป็นพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะ คุณหลี่ หนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้ กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “มันทันสมัยยิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก ขั้นตอนการเช็กอินและการโหลดกระเป๋าเป็นไปอย่างราบรื่น และการออกแบบอาคารก็สวยงามมาก ทริปนี้เป็นทริปที่น่าจดจำจริง ๆ”

อีกหนึ่งช่วงเวลาที่น่าประทับใจคือ เที่ยวบิน MU2219 จากหลานโจวได้รับการต้อนรับด้วยอุโมงค์น้ำ (Water Salute) เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่เที่ยวบินขาเข้าเที่ยวแรกที่เดินทางมาถึงอาคารผู้โดยสาร 3 คุณจาง หนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบินนี้ กล่าวหลังเพิ่งลงจากเครื่องว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รับประสบการณ์การต้อนรับด้วยอุโมงค์น้ำ แถมยังประจวบเหมาะกับการเปิดอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินไป๋อวิ๋น ฉันรู้สึกโชคดีอย่างเหลือเชื่อ! และเมื่อมองลงมาจากบนฟ้า แบบอาคารมีรูปทรงสมชื่อ ‘มงกุฎดอกไม้แห่งนครแพะ’ จริง ๆ มันน่าทึ่งมาก!”

ทันสมัยและสะดวกสบาย: อัปเกรดอุปกรณ์เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทาง

อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่นี้ได้รับการออกแบบในธีม “ดอกไม้” โดยผสมผสานสัญลักษณ์ของเมืองกว่างโจว เช่น ภูเขาไป๋อวิ๋น แม่น้ำจูเจียง และเอกลักษณ์ของ “นครแห่งดอกไม้” สถาปัตยกรรมของอาคารที่คล้ายดอกไม้กำลังผลิบาน ก่อให้เกิดภาพของ “มงกุฎดอกไม้แห่งนครแพะ” และกลายเป็นแลนด์มาร์กสำหรับกว่างโจวในการเปิดประตูสู่โลก ในส่วนของการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้น อาคารแห่งนี้ผสานรวม “เทคโนโลยีอัจฉริยะ” เข้ากับ “การออกแบบที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง” ได้อย่างกลมกลืน เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสาร

อาคารผู้โดยสาร 3 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารอย่างครบครัน ได้แก่ เคาน์เตอร์เช็กอิน 199 จุด (มีให้เลือกทั้งแบบบริการตนเอง แบบที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ และแบบที่สลับสับเปลี่ยนได้), เครื่องเช็กอินอัตโนมัติแบบบริการตนเอง 60 เครื่อง, เครื่องโหลดสัมภาระแบบบริการตนเอง 59 เครื่อง (57 เครื่องสามารถเปลี่ยนเป็นแบบเจ้าหน้าที่ให้บริการ และ 2 เครื่องเป็นแบบบริการตนเอง), สะพานเทียบเครื่องบิน 87 ชุด, จอแสดงข้อมูลเที่ยวบิน (FIDS) 886 จอ และระบบเสียงตามสาย 7,193 ชุด นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้นด้วยช่องทางตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศ 31 ช่อง และระหว่างประเทศ 9 ช่อง (ไม่รวมอีก 8 ช่องทางที่เตรียมเปิดใช้ในอนาคต) อาคารผู้โดยสารแห่งนี้ยังได้นำระบบที่ทันสมัยอย่าง “การตรวจคัดกรองความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ + การส่งคืนถาดใส่สัมภาระอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี RFID” มาใช้ ขณะเดียวกัน ระบบประตูยืนยันตัวตนอัตโนมัติแบบสองชั้นจำนวน 21 เครื่อง สามารถดำเนินการตรวจสอบแล้วเสร็จในทุก 6 วินาที ด้วยอัตราการระบุตัวตนผิดพลาดต่ำกว่า 0.1% ทั้งนี้ การเชื่อมโยงอย่างแม่นยำระหว่าง “ผู้โดยสาร-ถาด-สัมภาระ” ช่วยให้กระบวนการรักษาความปลอดภัยเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น ขณะที่การเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งก็สะดวกสบายขึ้นเช่นกัน โดยศูนย์การขนส่งภาคพื้นดิน (GTC) ได้เชื่อมต่อทางหลวง ทางรถไฟ ระบบขนส่งสาธารณะในเมือง และการเดินทางทางอากาศเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งมีอาคารจอดรถ P11 และ P12 ขนาบข้าง ซึ่งจอดรถได้ประมาณ 2,800 คัน (พร้อมให้บริการที่จอดรถ 1,800 คันในระยะแรก) ช่วยรองรับเดินทางแบบ “เครื่องบิน-และ-รถ” ได้อย่างไร้รอยต่อ

ที่สำคัญคือ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 3 ถือเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมถึงสองด้านด้วยกัน ประการแรกคือ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารผู้โดยสารของสนามบินขนาดใหญ่ระดับศูนย์กลางการบินแห่งแรกในประเทศจีนที่นำกระบวนการสร้างแบบจำลองสารสนเทศอาคาร Building Information Modeling (BIM) มาใช้ในการก่อสร้างอาคารอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบตลอดทั้งกระบวนการ ครอบคลุมบุคลากรทุกคน ทุกพื้นที่ ทุกสาขา และตลอดวงจรชีวิตของอาคาร กลายเป็นโครงการสาธิตสำหรับการออกแบบดิจิทัลในภาคการบินพลเรือนและเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม ประการที่สองคือ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารผู้โดยสารแห่งแรกของจีนที่บรรลุเป้าหมายด้านการจัดเก็บเอกสารแบบไร้กระดาษ ข้อมูลอาคารทั้งหมดจะถูกจัดเก็บในชุดข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่รวม “ข้อมูลเชิงพื้นที่ + ข้อมูลอาคารสถานที่/อุปกรณ์” เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการให้ข้อมูลที่แม่นยำสำหรับการดำเนินงาน การจัดการ และการบำรุงรักษาในอนาคต โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 “งานก่อสร้างอัจฉริยะด้วย openBIM สำหรับโครงการขยายอาคารผู้โดยสาร 3 ระยะที่ 3 ของท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น” ได้รับรางวัลใหญ่ในสาขางานก่อสร้างระดับโลก จากเวทีประกาศรางวัล buildingSMART International openBIM Awards ซึ่งแต่ละสาขามีผู้ชนะเพียงรายเดียว

รันเวย์ 5 เส้น อาคารผู้โดยสาร 3 อาคาร: เสริมแกร่งบทบาทการเป็นประตูสู่นานาชาติ

การขยายท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น จากเดิมที่มี “รันเวย์ 2 เส้น และอาคารผู้โดยสาร 1 อาคาร” สู่ปัจจุบันที่มี “รันเวย์ 5 เส้น และอาคารผู้โดยสาร 3 อาคาร” ถือเป็นการวางรากฐานสำหรับการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารของศูนย์กลางการบินแห่งนี้ โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ดึงดูดให้สายการบินต่าง ๆ เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยม และเปิดบริการเส้นทางใหม่ ๆ ทั้งระหว่างประเทศและภายในประเทศ ช่วยให้กว่างโจวเสริมสร้างบทบาทการเป็นประตูที่ “เชื่อมโยงทั่วประเทศ เชื่อมต่อระหว่างทวีป และเข้าถึงทั่วโลก” ซึ่งมีส่วนสนับสนุนการสร้างวงรอบการเดินทางทางอากาศทั่วโลกภายใน 12 ชั่วโมง

นับตั้งแต่ต้นปีนี้ สนามบินไป๋อวิ๋นได้ร่วมมือกับสายการบินต่าง ๆ เพื่อเปิดตัว กลับมาให้บริการ หรือเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางระหว่างประเทศกว่า 30 เส้นทาง หนึ่งในนั้นรวมถึงการกลับมาเปิดบริการเส้นทางกัลกัตตา-กว่างโจวของสายการบิน IndiGo เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม และการเปิดตัวเส้นทางแอลเจียร์-กว่างโจวของสายการบิน Air Algerie เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ในฐานะศูนย์กลางการบินนานาชาติที่รองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และเป็นประตูเชื่อมทั่วประเทศกับนานาประเทศอย่างครอบคลุม สนามบินไป๋อวิ๋นยังคงยกระดับบทบาทของตนเองอย่างต่อเนื่องในฐานะแกนหลักของ “เส้นทางสายไหมทางอากาศ” ผ่านการขยายความกว้างและความลึกของเครือข่ายเส้นทางบิน โดยสนามบินไป๋อวิ๋นได้ต้อนรับสายการบินระหว่างประเทศ 5 รายใหม่ ได้แก่ Air Astana, VietJet Airlines (เวียดนาม), Uzbekistan Airways, Nepal Airlines และ Air Algerie ซึ่งช่วยขยายเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ในฤดูกาลการบินใหม่นี้ การให้บริการเที่ยวบินโดยสารแบบประจำมีกำหนด (scheduled passenger flight) ณ สนามบินไป๋อวิ๋น เพิ่มจำนวนเป็น 10,728 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทำให้นักเดินทางมีทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

สำหรับก้าวต่อไปในอนาคต สนามบินไป๋อวิ๋นจะใช้การเปิดอาคารผู้โดยสาร 3 เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในการส่งเสริมการพัฒนาที่สอดประสานและส่งเสริมกันระหว่างสนามบินต่าง ๆ ในเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า เพื่อร่วมกันสร้างกลุ่มสนามบินระดับโลก ขณะเดียวกัน สนามบินไป๋อวิ๋นมุ่งมั่นที่จะสร้างบรรทัดฐานสำหรับการพัฒนาคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมการบินพลเรือนของจีน ด้วยอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ชาญฉลาดขึ้น บริการที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางมากขึ้น และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันเป็นการสะท้อนถึงบทบาทของสนามบินในการสนับสนุนความพยายามของมณฑลกวางตุ้นในการเป็นผู้นำขับเคลื่อนความทันสมัยของประเทศ

ที่มา: ท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น

ที่มา: ซินหัว-เอเชียเน็ท/ดาต้าเซ็ต