-อัครามุ่งยกระดับสุขภาพ การศึกษา อาชีพ และความปลอดภัย เติบโตเคียงข้างชาวบ้านกว่า 15,000 ชีวิต

เคยสงสัยไหมว่าการมีเหมืองทองคำอยู่ใกล้บ้าน ชีวิตประจำวันของผู้คนจะเป็นอย่างไร? สำหรับชาวบ้านกว่า 15,000 คน ใน 29 หมู่บ้านรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี คำตอบเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องจักรหรือกระบวนการทำเหมืองเท่านั้น แต่สะท้อนอยู่ในวิธีที่เหมืองเลือกจะรับฟัง ร่วมแก้ปัญหา และเติบโตไปกับชุมชน
แนวทางการพัฒนาชุมชนที่เกิดจากการ “รับฟัง”
บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำชาตรีได้นำเอา “เสียงของชุมชน” มาเป็นหัวใจของการดำเนินงาน ซึ่งหมายถึงการใส่ใจในการรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนอย่างจริงจังและจริงใจ ผ่านการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน การร่วมประชุมหมู่บ้านเป็นประจำทุกเดือนและการติดตั้งกล่องรับฟังความคิดเห็น 9 จุด เพื่อสร้างความผูกพันและทำความเข้าใจถึงข้อกังวลต่าง ๆ ของชุมชน และทำให้อัคราสามารถออกแบบโครงการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ตอบโจทย์กับความต้องการของชุมชนผ่านกรอบการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพดีถ้วนหน้า ด้านยกระดับการศึกษา ด้านน้ำเพื่อชีวิต และด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การจ้างงานที่พาทุกคนกลับบ้าน
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องจากบ้านไปทำงานในเมือง ทิ้งครอบครัวและคนที่รักไว้ข้างหลัง แต่วันนี้เหมืองแร่ทองคำชาตรีได้กลายเป็นแหล่งงานสำคัญที่ทำให้หลายครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าอีกครั้ง ด้วยนโยบายการจ้างงานในพื้นที่ ปัจจุบันพนักงานเกือบ 90% ของอัคราล้วนมาจาก 3 จังหวัดรอบเหมือง ทำให้รายได้หมุนเวียนอยู่ในท้องถิ่น และชุมชนเข้มแข็งมากขึ้น
นอกจากงานในเหมืองแล้ว อัครายังสนับสนุนทั้งอาชีพหลักของชุมชนอย่างเกษตรกรรม ผ่านการแนะแนววิธีทำเกษตรปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มผลผลิต รวมถึงส่งเสริมอาชีพเสริมผ่านกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การจัดตลาดนัดชุมชน และโครงการผลิตน้ำดื่มที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการด้วยตนเอง จนทำให้อัคราสามารถสร้างรายได้ให้กับคนไทยได้มากกว่า 240 ล้านบาทต่อเดือน
“ผมเคยทำงานที่กรุงเทพฯ หลายปี ต้องอยู่ห่างครอบครัวตลอด พอกลับมาทำงานที่เหมือง รายได้ก็มั่นคงไม่ต่างจากในเมือง แต่ที่สำคัญกว่าคือได้กลับมาอยู่กับครอบครัวและลูก ๆ และได้กลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง” – เสียงของหนึ่งในพนักงานอัคราที่อาศัยอยู่ในชุมชนรอบเหมือง
การศึกษาเพื่อยกระดับชีวิต และต่อยอดโอกาสสู่อนาคต
เพราะเด็กคืออนาคตของชุมชน อัคราจึงมุ่งลงทุนพัฒนาโรงเรียนรอบเหมือง ผ่านการปรับปรุงอาคารเรียน การจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน การพัฒนาศักยภาพครู ไปจนถึงการส่งบุคลากรของบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญไปสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีนให้แก่นักเรียน และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สำนักงานของอัคราจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ รอบเหมือง ภายใต้โครงการ “อัคราสานฝัน ปันปัญญา” เพื่อเสริมทักษะด้านภาษา ดนตรี กีฬา และศิลปะ
ตลอดระยะเวลา 2 ปีหลังอัครากลับมาเปิดดำเนินการ บริษัทฯ ได้สบทบเงินเข้ากองทุนต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลชุมชนรอบเหมืองแล้วกว่า 420 ล้านบาท โดยกองทุนเหล่านี้ถูกนำไปใช้ขับเคลื่อนโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง รวมทั้งสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาและอาชีพของเยาวชน เช่น การจัดทำโรงเรือนเกษตรและโครงการฝึกอาชีพ ที่ช่วยให้นักเรียนมีรายได้จากการเก็บผลผลิต และมีทักษะที่ได้รับจากประสบการณ์จริง
“เด็ก ๆ หลายคนเวลาไปเรียนที่อื่นต้องมีค่าใช้จ่าย แต่โครงการ “อัคราสานฝัน ปันปัญญา” ของอัครา เด็ก ๆ ได้เรียนฟรี ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ได้จริง ดิฉันอยากให้มีโครงการแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ” – เสียงของหนึ่งในผู้ปกครองของนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ “อัคราสานฝัน ปันปัญญา”
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคนในชุมชน
การทำเหมืองมักมาพร้อมกับข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางสุขภาพ อัคราจึงนำงบประมาณจากกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ ที่อัครานำเงินส่งเข้ากองทุน มาจัดโครงการตรวจสุขภาพฟรีประจำปีให้กับชาวบ้านกว่า 700 – 800 คน ในพื้นที่ 8 ตำบลรอบเหมือง พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ และฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อสร้างระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุมและได้มาตรฐาน และสร้างความมั่นใจให้ทั้งพนักงาน ครอบครัว และผู้สูงอายุในชุมชน
การดูแลรักษาน้ำให้สะอาด ปลอดภัย พร้อมเติมเต็มทุกกิจวัตรของผู้คน
“น้ำ” คือหัวใจของการดำรงชีวิต อัคราจึงร่วมดูแลและบำรุงรักษาระบบกรองน้ำกว่า 16 จุดในหมู่บ้านรอบเหมือง พร้อมตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทุกครัวเรือนสามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังสนับสนุนการซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้านเพื่อรองรับทั้งการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนและการเกษตร
ควบคู่ไปกับการดูแลน้ำคือการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม อัคราดำเนินโครงการปลูกป่าอย่างต่อเนื่อง และวางมาตรการการจัดการหางแร่อย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน โดยไม่มีการปล่อยของเสียสู่ภายนอก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติของชุมชน
“สำหรับอัครา การทำเหมืองไม่ใช่แค่เพียงการผลิตทองคำแต่คือการดูแลผู้คนและชุมชนรอบเหมืองอย่างเต็มกำลัง พนักงานของเราส่วนใหญ่ล้วนเกิดและเติบโตที่นี่ หลายคนเลือกกลับมาทำงานเพราะต้องการอยู่ใกล้กับผู้คนที่พวกเขารัก และพวกเขาเองคืออีกเสียงที่ยืนยันว่า การดำเนินงานของอัคราไม่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวและชุมชนของตน ความผูกพันเหล่านี้คือแรงผลักดันให้เราเดินหน้าด้วยความรับผิดชอบ ดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ด้วยความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมอย่างจริงใจ เพื่อให้สิ่งดี ๆ ที่เราสร้างจะยังคงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน แม้ในวันที่เหมืองปิดตัวลงแล้วก็ตาม” — นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กล่าว
