กทม. เดินหน้าเพิ่มศักยภาพศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง รองรับผู้ป่วยบัตรทองต่อเนื่องไร้รอยต่อ

นางดวงพร ปิณจีเสคิกุล  ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ในการรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในสิทธิบัตรทองในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากคลินิกชุมชนอบอุ่นและหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลเอกชนขอถอนตัวจากระบบประกันสุขภาแห่งชาติว่า กรณีดังกล่าว สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 ประสานงานเพื่อรองรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง หลังมีคลินิกชุมชนอบอุ่น 24 แห่ง และหน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาลเอกชน 25 แห่ง ประกาศถอนตัวออกจากระบบบัตรทองตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 68 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ยังคงเป็นหน่วยบริการประจำให้กับประชาชน 51,874 คน ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมให้การดูแลรักษาในระหว่างที่ สปสช. อยู่ระหว่างจัดหาหน่วยบริการปฐมภูมิมารองรับ โดยได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบอินโฟกราฟิกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กของ สนอ. รวมถึงช่องทางของศูนย์บริการสาธารณสุขทุกแห่ง เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ สนอ. ได้กำหนดแนวทางให้ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง เปิดให้บริการแก่ผู้ป่วย ที่มีสิทธิปฐมภูมิคลินิก หรือหน่วยบริการปฐมภูมิอื่นในกรณีอุบัติเหตุ ฉุกเฉิน หรือเหตุสมควร โดยไม่ปฏิเสธการรักษา ตามนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ขณะเดียวกันได้พัฒนาศักยภาพการให้บริการของศูนย์บริการสาธารณสุขโดยเพิ่มบริการดูแลผู้ป่วยแบบต่อเนื่อง ขยายเวลาเปิดทำการ เปิดคลินิกนอกเวลา และจัดตั้งคลินิกพิเศษในกลุ่มศูนย์บริการสาธารณสุขให้เป็นเครือข่ายคลินิกรับการส่งต่อผู้ป่วยผ่านระบบ Teleconsult อาทิ คลินิกยุรศาสตร์โรคหัวใจ คลินิกสูตินรีเวช คลินิกอายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อฯ คลินิกกุมารเวชกรรม และคลินิกจักษุ เป็นต้น

 ทั้งนี้ กทม. ได้ดำเนินโครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยี เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ (Health Information Exchange: Health Link) ร่วมกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาล (รพ.) สังกัด กทม. รพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. 69 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่น และหน่วยนวัตกรรมในพื้นที่ หน่วยบริการทุกระดับสามารถเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย อาทิ ข้อมูลการรักษา การแพ้ยา และการทำหัตถการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาพยาบาล การติดตามอาการ ลดความซ้ำซ้อนการจ่ายยา และสนับสนุนการส่งต่อระหว่างหน่วยบริการต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกการเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว และมีคุณภาพ โดยปัจจุบันศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่งของ กทม. สามารถเข้าใช้งานผ่านระบบ Health Link ได้

ที่มา: กรุงเทพมหานคร