จังหวัดบุรีรัมย์ จัดพิธีถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ

จังหวัดบุรีรัมย์ จัดพิธีถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ

เมื่อวันพุธที่ 2 มีนาคม 2565เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์  นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ มอบหมายให้  นายอนุพงศ์  สุขสมนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์  เป็นประธานประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะ และกล่าวคำถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ  2 มีนาคม 2565 โดยมี ส่วนราชการ  ศาล ทหาร ตำรวจ  สถาบันการศึกษา องค์กรอิสระ ข้าราชการ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ร่วมวางพานพุ่มถวายราชสักการะ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล ถึงความสำคัญของช่างฝีมือ ที่มีพระราชดำริถึงความสำคัญของช่างฝีมือ ที่มีบทบาทสำคัญต่อทุกคนในสังคม

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 กำหนดให้วันที่ 2 มีนาคมของทุกปี เป็นวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และทูลเกล้าขอพระราชทานถวายพระราชสมัญญาแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ทรงเป็น “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” ด้วยพระปรีชาสามารถด้านการช่างอันเป็นที่ประจักษ์ ตั้งแต่ทรงประดิษฐ์ของเล่น เมื่อครั้งทรงพระเยาว์วัย จนถึงเรือใบที่ทรงใช้แข่งขันในกีฬาแหลมทอง กังหันน้ำชัยพัฒนา ตลอดจนทรงตั้งโรงเรียนพระดาบส เพื่อสอนวิชาชีพให้แก่เยาวชน และผู้ด้อยโอกาสทั่วไป ทรงพระราชทานพระราชดำรัส เกี่ยวกับการช่างของไทยเมื่อครั้งเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างของสโมสรโรตารี่ กรุงเทพใต้  ณ ลุมพินีสถาน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2513 ความตอนหนึ่งว่า “ช่างทุกประเภทเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมืองและของทุกคน เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัยและใช้บริการ หรือสิ่งต่างๆ ที่มาจากฝีมือของช่างอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผู้เป็นช่าง จึงสมควรได้รับความเอาใจใส่ สนับสนุนจากทุกๆฝ่าย ในการส่งเสริมนั้นมีปัญหาเรื่องฝีมือ ซึ่งจะต้องปรับปรุง ให้มีความประณีตและประสิทธิภาพได้มาตรฐานจริงๆ”

กระแสพระราชดำรัสดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงสายพระเนตรอันยาวไกล ที่มีพระราชดำริถึงความสำคัญของช่างฝีมือ ที่มีบทบาทสำคัญต่อทุกคนในสังคม  กระทรวงแรงงานจึงได้น้อมนำใส่เกล้าไปปฏิบัติในการพัฒนากำลังแรงงานของไทย ให้มีฝีมือ ได้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และมาตรฐานสากล พร้อมทั้งมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ เพิ่มขีดความสามารถของประเทศ  พัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ ตลอดจนสร้างความเชื่อมันของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย  รองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและประชาคมโลกในอนาคต

ที่มา: สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานบุรีรัมย์