สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพัทลุง จัดโครงการวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2564

วันที่ 2 มีนาคม 2564 นายอุทิพย์  อินทรเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพัทลุง (สนพ.พัทลุง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และบุคลากร  จัดงานวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติประจำปี 2564 จังหวัดพัทลุง  โดยมีนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง  เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” ณ อาคารหอประชุมจังหวัดพัทลุง อำเภอเมือง  จังหวัดพัทลุง ทั้งนี้มีข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ เหล่ากาชาดจังหวัด ผู้บริหารสถาบันการศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สด จำนวน  43  หน่วยงาน  และมีผู้ร่วมงาน จำนวนทั้งสิ้น 161 คน 

ความสำคัญ วันนี้ เมื่อปีพุทธศักราช 2513 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างแห่งชาติ ณ ลุมพินีสถาน และพระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับการช่างของไทย  ความตอนหนึ่งว่า

“…ช่างทุกประเภท เป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมืองและของทุกคน  เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัยและใช้บริการหรือสิ่งต่างๆ ที่มาจากฝีมือของช่างอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผู้เป็นช่างจึงสมควรได้รับความเอาใจใส่สนับสนุนจากทุกๆ ฝ่าย  ยิ่งในสมัยปัจจุบันวิทยาการทุกอย่างเจริญก้าวหน้า ยิ่งจำเป็นต้องส่งเสริมมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ช่างที่มีความสามารถสูง  ให้มีสิ่งใช้สอยที่มีคุณภาพดีและเพียงพอกับความต้องการ ในการส่งเสริมนั้น  มีปัญหาอันควรจะได้พิจารณาช่วยเหลืออยู่สามประการ ประการแรก ได้แก่ ปัญหาเรื่องการให้ความรู้ทางหลักวิทยาการ  และความรู้ทางการออกแบบ ประการที่สอง ได้แก่ ปัญหาเรื่องฝีมือ  ซึ่งจะต้องปรับปรุงให้มีความประณีตและประสิทธิภาพได้มาตรฐานจริงๆ ประการที่สาม ได้แก่ ปัญหาเรื่องการจัดหางานและหาตลาด  เพื่อช่วยให้ช่างได้มีงานทำ มีตลาดที่จะส่งสินค้าที่ผลิตได้ไปจำหน่าย การช่วยเหลือทั้งสามประการนี้ จะต้องกระทำให้สอดคล้องกันไป  เพื่อให้ช่างมีรายได้และผลกำไร สำหรับนำมาเป็นทุนรอนสร้างฐานะและความก้าวหน้า ข้าพเจ้าใคร่ขอฝากความคิดทั้งนี้ไว้เป็นแนวทางปฏิบัติของท่านทั้งหลายต่อไป ”

จากกระแสพระราชดำรัสดังกล่าว  สะท้อนให้เห็นถึงสายพระเนตรอันยาวไกลที่มีพระราชดำริถึงความสำคัญของช่างฝีมือ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อทุกคนในสังคมจึงจำเป็นต้องพัฒนาให้มีฝีมือตาม มาตรฐานฝีมือแรงงาน เพราะนั่นหมายถึงคุณภาพของสินค้าและบริการ  ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย แม้จะผ่านมาถึง 51 ปีแล้ว ยังคงทันสมัยและนับวันจะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในการพัฒนากำลังแรงงานให้มีฝีมือ  พัฒนาสู่มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งด้านการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ สร้างการยอมรับในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและประชาคมโลก

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 คณะรัฐมนตรีมีมติถวายพระราชสมัญญาแด่พระองค์ท่านให้เป็น “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” พร้อมกับกำหนดให้วันที่ ๒ มีนาคม ของทุกปี เป็นวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ พระองค์ทรงเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ จะสถิตอยู่ในดวงใจตราบนิรันดร์.

ที่มา: สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพัทลุง