SCB WEALTHชูAI Infrastructureเป็นคลื่นลงทุนยักษ์แห่งอนาคต BlackRockมองไทยศูนย์กลางData Centerโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว

SCB WEALTH จับมือ BlackRock ร่วมเสวนาในหัวข้อ The Global AI Race: Riding the Tsunami of Tomorrow’s Infrastructure คลื่นยักษ์แห่งโอกาสลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI แห่งอนาคต ในงาน SCB WEALTH : HOLISTIC WEALTH FORUM 2025 ภายใต้ธีม STORM SHIFT สะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่ “ยุคขับเคลื่อนด้วย AI” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ต่อโครงสร้างเศรษฐกิจโลก BlackRock มองโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญในกลุ่ม AI Infrastructure และ Private Markets โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่โดดเด่นด้านการเติบโตของ Data Center ขณะที่ไทยถูกมองว่ามีศักยภาพก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้าน Data Center ในภูมิภาค รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว

นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวในงานเสวนา The Global AI Race: Riding the Tsunami of Tomorrow’s Infrastructure คลื่นยักษ์แห่งโอกาสลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI แห่งอนาคต ในงาน SCB WEALTH : HOLISTIC WEALTH FORUM 2025 ภายใต้ธีม STORM SHIFT ว่า โลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากยุค Digital Economy ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและพฤติกรรมผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มไปสู่ยุคที่ AI เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ไม่ใช่เพียงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี แต่กำลังกลายเป็น “โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่” ที่จะยกระดับการผลิต การบริการ และรูปแบบธุรกิจทั่วโลก

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า AI จะเพิ่มมูลค่าให้เศรษฐกิจโลกกว่า 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยพัฒนาการของ AI กำลังก้าวจาก Generative AI ไปสู่ Agentic AI (AGI) ที่ทำงานได้หลายหน้าที่พร้อมกัน (Multi -Task & Multi-Workflow) ซึ่งต้องการพลังประมวลผลสูงมาก ส่งผลให้ความต้องการ AI Infrastructure เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทั้งนี้ องค์ประกอบของ AI Infrastructure ประกอบด้วย 1) Data Infrastructure เช่น Data Center ,ระบบจัดเก็บ และประมวลผลข้อมูล 2) Computing & Networking เช่น ความเร็วของเครือข่าย และระบบเชื่อมต่อ และ 3) Power/Grid & Cooling System เช่น ระบบพลังงาน และระบบทำความเย็นเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว คาดว่าความต้องการพลังงานของ Data Center ทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้น 4-5 เท่า เพื่อรองรับการเติบโตของ AI ในทศวรรษนี้ ดังนั้น โอกาสการลงทุน จึงไม่ใช่แค่ AI แต่ครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมสนับสนุน

จังหวะการเข้าลงทุน เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้นักลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี หรือไม่ดี หากเข้าลงทุนเร็วเกินไป อาจเป็นช่วงที่เมกะเทรนด์ยังไม่สามารถสร้างผลเชิงพาณิชย์ได้ แต่หากลงทุนช้าเกินไป ราคาอาจสะท้อนมูลค่าในอนาคตไปหมดแล้ว ซึ่งการลงทุนในเมกะเทรนด์ AI นั้น เรามองว่า ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากการใช้ AI ในหลายอุตสาหกรรม และอีก 5-10 ปีข้างหน้า AI Infrastructure อาจขยายตัวระดับเมือง ระดับประเทศมากขึ้น ดังนั้น หากลงทุนใน AI Infrastructure ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้

“จังหวะเข้าลงทุนสำคัญไม่แพ้สินทรัพย์ที่เลือก หากเร็วเกินไปอาจยังไม่สร้างผลตอบแทน แต่หากช้าเกินไป มูลค่าก็สะท้อนอนาคตไปแล้ว ปัจจุบันเมกะเทรนด์ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และอีก 5-10 ข้างหน้า AI Infrastructure จะขยายตัวระดับเมืองและระดับประเทศ จึงเป็นช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้สร้างผลตอบแทนระยะยาว” นายศรชัย กล่าว

Mr.George Maltezos Head of BlackRock Capital Formation Team (CFT) in Asia Pacific and Head of Southeast Asia Institutional Client Business กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้นักลงทุนควรมองข้ามความไม่แน่นอนระยะสั้น และให้ความสำคัญกับ 4 Maga Force หรือแรงขับเคลื่อนมหาภาคที่มีพลังเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโลก ได้แก่ Digital Revolution & AI, Future of Finance, Energy Transition และ Demographic Divergence

ภายใต้กระแสเหล่านี้ โครงสร้างพื้นฐาน( Infrastructure) กลายเป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจ และแกนกลางการลงทุนระยะยาว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพอร์ตลงทุน ไม่ใช่แนวคิดใหม่ เพราะนักลงทุนสถาบันลงทุนมามากกว่า 20 ปีแล้ว เนื่องจากช่วยกระจายความเสี่ยงออกจากสินทรัพย์ดั้งเดิม มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอในระยะยาว มีความยืดหยุ่นสูงและรองรับการเติบโตของเมกะเทรนด์ หนึ่งในธีมสำคัญคือ Energy Transition ซึ่งโลกต้องการเม็ดเงินลงทุนกว่า 2.5 -3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 10 ปีข้างหน้า เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

ทั้งนี้ BlackRock มองว่า ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market : EM) เป็นพื้นที่เติบโตโดดเด่นสำหรับการลงทุน Data Center โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสูง ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า การเชื่อมต่อ และทำเลที่เหมาะสมต่อบริษัทระดับโลก ความต้องการลงทุนใน Data Center ทั่วโลกใน 50 ปีข้างหน้าอาจสูงถึง 95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรัฐบาลลงทุนได้เพียงบางส่วน และยังมีช่องว่างกว่า15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ Private Marketing สามารถเข้ามามีบทบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้มากเท่ากับงบประมาณรวมของสหรัฐฯ จีนและเยอรมนี และการลงทุนใน Data Center ในไทยอาจสร้างผลตอบแทนได้สูงในระยะยาว

“ AI ไม่ใช่กระแสแต่คือพลังแห่งการปฎิรูปเศรษฐกิจโลก และผู้ที่มองข้ามความผันผวนระยะสั้นเพื่อจับ Mega Force ระยะยาว จะเป็นผู้คว้าโอกาสเติบโตในยุคใหม่” Mr.George กล่าว

นายธณาพล อิทธินิธิภัค Head of Thailand Business, BlackRock กล่าวว่า AI ไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมในอนาคต แต่คืออนาคตของเศรษฐกิจโลก โดยกระแส AI เติบโตทั้งด้านการลงทุนและผู้ใช้เทคโนโลยี ในด้านการลงทุน ปัจจุบันทั่วโลกมีการลงทุนใน AI มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าใน 3-4 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับจำนวนผู้ใช้งานเทคโนโลยี ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน AI แบบ Active ประมาณ 380 ล้านคน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่นับรวมการใช้ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ และมองว่า ความสามารถของ Generative AI ยังน้อยมาก เมื่อเทียบกับศักยภาพของ Agentic AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้หลายรูปแบบ ความต้องการพลังประมวลผลจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดย Data Center จะต้องขยายจากระดับเมกะวัตต์ไปสู่ระดับกิกะวัตต์

คำเตือน

• การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
• เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
• สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

ที่มา: ธนาคารไทยพาณิชย์

Symbol: SCB