อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จุดกระแสครั้งใหญ่ เขย่าตลาดประกันชีวิตไทย เปิดตัวแคมเปญ “ตรงไป ตรงมา” สร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดประกันชีวิต เน้นการสื่อสารที่โปร่งใสและเข้าใจง่าย ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำที่กล้าท้าทายวิธีคิดเดิม พร้อมยกระดับสู่นวัตกรรมการตลาดที่แตกต่าง ด้วยการเปลี่ยนจุดขายจากการพูดถึงเพียงผลประโยชน์ เป็นการอธิบายเงื่อนไขอย่างตรงไปตรงมา มุ่งสร้างประสบการณ์ที่โปร่งใส จริงใจ และเชื่อถือได้อย่างแท้จริง

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้าและความยั่งยืน บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย การสื่อสารส่วนใหญ่ยังคงเป็นการมุ่งขายที่ผลประโยชน์และความคุ้มครองเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ซื้อ แต่หลายครั้งละเลยการสร้างความเข้าใจที่ครบถ้วนกับลูกค้า ผลที่เกิดขึ้นคือ เมื่อถึงเวลาต้องใช้สิทธิ์ความคุ้มครอง หลายคนพบเจอเงื่อนไขที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน จนนำไปสู่ความผิดหวังและสร้างภาพลบต่อทั้งอุตสาหกรรม อลิอันซ์ อยุธยา เชื่อว่า ‘เงื่อนไข’ ไม่ใช่เพียงรายละเอียดเล็กน้อย แต่คือจุดเปลี่ยนสำคัญของประสบการณ์ลูกค้า หากไม่ทำให้เข้าใจตั้งแต่ต้น ต่อให้ผลิตภัณฑ์คุ้มครองดีเพียงใด ก็ไม่สามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างแท้จริง นี่คือเหตุผลที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรากล้าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่สื่อสารเรื่องเงื่อนไข เพราะความตรงไปตรงมาไม่ใช่เพียงแคมเปญชั่วคราว แต่คือ คุณค่าหลักที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด การสื่อสารในครั้งนี้ จึงไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ แต่คือการตอกย้ำและยกระดับสิ่งที่เราเชื่อมั่นให้เด่นชัดยิ่งขึ้น เป้าหมายของเราคือการสร้างมาตรฐานใหม่ของความโปร่งใสในธุรกิจประกันชีวิตไทย สร้างความเชื่อมั่นระยะยาวให้ลูกค้า และยืนยันบทบาทผู้นำของอลิอันซ์ อยุธยาในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปสู่ความยั่งยืน”
แคมเปญ “ตรงไป ตรงมา” ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างการตระหนักรู้เรื่อง “การอ่านเงื่อนไข” อย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการสร้างปรากฏการณ์บนสื่อกลางแจ้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาดประกันชีวิตไทย ด้วยการนำ “เงื่อนไขประกัน” ขึ้นไปปรากฏบนบิลบอร์ดยักษ์ใจกลางกรุงเทพฯ ในรูปแบบที่ใหญ่และสะดุดตาที่สุด เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจสิ่งที่มักถูกมองข้าม จากนั้นสานต่อด้วยฮีโร่หลักของการสื่อสาร นั่นคือภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนบทบาทของ “ตัวแทน” ในการเป็นผู้เชื่อมโยงความเข้าใจอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะปิดท้ายด้วยการกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อย้ำให้เห็นชัดว่า การอ่านเงื่อนไขคือหัวใจสำคัญก่อนการเลือกซื้อประกัน
ภาพยนตร์โฆษณาในแคมเปญ “ตรงไป ตรงมา” ถ่ายทอดเรื่องราวสะท้อนความจริงของผู้บริโภค ผ่านเหตุการณ์ที่หญิงสาวคนหนึ่งนัดพบตัวแทนขายประกันในร้านกาแฟ ด้วยความตั้งใจเพียงจะรีบเซ็นเอกสารให้จบโดยไม่สนใจรายละเอียด แต่แทนที่ตัวแทนจะเร่งรัดการขาย กลับขอให้เธออ่านและซักถามเงื่อนไขทุกข้อให้เข้าใจอย่างชัดเจน โดยตัวแทนสื่อสารอย่าง “ตรงไป ตรงมา” ว่า หากเราทำทุกอย่างถูกต้องในวันนี้ ในวันข้างหน้า ลูกค้าก็จะได้รับความคุ้มครองตามสิทธิ์โดยไม่ต้องกังวล บทสนทนาอันตรงไปตรงมานี้ ทำให้หญิงสาวเริ่มเปิดใจและรับฟัง ก่อนจะหยิบกรมธรรม์ขึ้นมาอ่านด้วยตัวเอง และค้นพบว่าการทำประกันไม่ใช่เพียงการเชื่อใจใครสักคน แต่ต้องมาจากการเข้าใจข้อมูลอย่างถ่องแท้ หนังจบลงด้วยรอยยิ้มที่สะท้อนความมั่นใจของทั้งสองฝ่าย ตอกย้ำสารสำคัญว่า “ทุกอย่าง…ต้องตรงไป ตรงมา” เพราะความโปร่งใส คือรากฐานของความไว้วางใจที่แท้จริงระหว่างลูกค้าและบริษัทประกัน
นอกจากสื่อหนังโฆษณาแล้ว แคมเปญตรงไป ตรงมาจะเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยกระตุ้นให้ผู้บริโภค “อ่านเงื่อนไขก่อนตัดสินใจซื้อประกัน” โดยใช้กลยุทธ์การสื่อสารครบทุกมิติ ทั้งการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภควงกว้าง การส่งต่อสารโดยตรงผ่านเครือข่ายตัวแทนมืออาชีพของบริษัท และสื่อต่างๆ ณ สำนักงานตัวแทนทั่วประเทศ เพื่อให้สาระสำคัญของแคมเปญถูกส่งไปถึงผู้บริโภคในทุกจุดที่มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ ที่สำคัญแนวคิดนี้ยังถูกเชื่อมโยงไปสู่ทุกผลิตภัณฑ์ของอลิอันซ์ อยุธยา ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันภัยประเภทต่าง ๆ เพื่อย้ำให้ชัดเจนว่าความโปร่งใสในการสื่อสารคือรากฐานเดียวกันของทุกกรมธรรม์ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะทำให้การอ่านเงื่อนไขกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของการทำประกันชีวิตไทย
“อลิอันซ์ อยุธยา ทุ่มงบลงทุนกว่า 70 ล้านบาท สำหรับแคมเปญ “ตรงไป ตรงมา” ในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนจุดยืนของบริษัทที่มุ่งยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสในธุรกิจประกันชีวิตไทย พร้อมตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคให้เห็นว่า การอ่านและเข้าใจเงื่อนไขคือหัวใจของความคุ้มครองที่แท้จริง ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ แต่ยังตอกย้ำบทบาทของ อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะผู้นำที่พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปสู่ความโปร่งใสและยั่งยืนในระยะยาว” คุณพัชรากล่าวสรุป
