ธนาคารทิสโก้ย้ำ “ประกัน” สิ่งจำเป็นสำหรับการวางแผนการเงินเพื่อความมั่งคั่ง เพราะช่วยป้องกันความเสี่ยงค่าใช้จ่ายสุขภาพ ค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และวางแผนส่งต่อมรดกแบบไร้รอยต่อ ชี้เข้าใจ Pain Point คนไม่มีประกัน เพราะตัดสินใจลำบาก เหตุมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเยอะประกอบกับความคุ้มครองและเงื่อนไขรับประกันซับซ้อนเข้าใจยาก ส่วนคนที่มีประกันแล้วอาจมีความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุม ชูโปรแกรม “TISCO My Goal” ตัวช่วยจัดพอร์ตประกันให้ครบถ้วน

นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ประกัน” เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการวางแผนการเงินเพื่อความมั่งคั่ง เพราะช่วยถ่ายโอนความเสี่ยงของชีวิตไปยังบริษัทประกัน อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือช่วยการออมเงินเพื่อการเกษียณและช่วยบริหารจัดการภาษีได้อีกด้วย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่บริษัทประกันนำเสนอในปัจจุบันมีหลากหลายความคุ้มครอง และมีเงื่อนไขที่ค่อนข้างซับซ้อนเข้าใจยาก อาจเป็นหนึ่งใน Pain Point ที่ทำให้คนไทยยังไม่กล้าตัดสินใจทำประกัน หรือหากตัดสินใจทำประกันแล้วก็อาจไม่รู้ตัวว่ามีความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุมกับความเสี่ยงในอนาคต
สำหรับผู้ที่ยังลังเลว่าควรเลือกประกันอย่างไรให้คุ้มค่า หรือต้องการตรวจสอบความคุ้มครองที่มีอยู่ว่าครบถ้วนหรือไม่ธนาคารทิสโก้แนะนำให้ใช้โปรแกรม TISCO My Goal ในรูปแบบย่อซึ่งเปิดให้ทดลองใช้ทางออนไลน์ เพียงคลิก https://advisory.tiscoonline.com/ และยังสามารถใช้โปรแกรม TISCO My Goal ผ่านทางแอปพลิเคชัน TISCO My Wealth เว็บไซต์ www.tiscowealth.com และ Line@ TISCOAdvisory ได้อีกด้วย ส่วนผู้ที่ต้องการใช้บริการวางแผนประกันอย่างเต็มรูปแบบด้วยโปรแกรม TISCO My Goal สามารถรับคำแนะนำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารจะช่วยคำนวณความคุ้มครองที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละท่าน พร้อมให้คำแนะนำเลือกประกันที่ครบถ้วนเปิดทริกจัดพอร์ตประกันตามช่วงอายุ
นายณัฐกฤติกล่าวว่า สำหรับการจัดพอร์ตประกันที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยงในอนาคตนั้น ธนาคารทิสโก้แนะนำให้ทำประกันตั้งแต่ยังมีสุขภาพดี เพราะเบี้ยถูกกว่าและมีโอกาสได้รับการคุ้มครองครบโดยไม่มีข้อยกเว้น และเลือกซื้อประกันที่รับประกันโดยบริษัทที่มั่นคง เชื่อถือได้ พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ ข้อยกเว้น และประวัติการจ่ายสินไหม และควรปรับสัดส่วนพอร์ตประกันตามช่วงวัยเพื่อให้สอดรับกับชีวิตของเราในแต่ละช่วงอายุ ดังนี้
- ประกันวัยเริ่มทำงาน 20-30+ อยู่วัยที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงและยังไม่มีภาระมากนัก ดังนั้น คนวัยนี้ควรทำประกัน
- ประกันอุบัติเหตุที่จ่ายเบี้ยน้อยแต่คุ้มครองสูง แบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและควรเป็นแบบที่มีแผนมีชดเชยรายได้ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลและคุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง เพื่อคุ้มครองกรณีป่วยหนักต้องเข้ารักษาตัวหรือผ่าตัดในโรงพยาบาล กรณีมีสวัสดิการจากที่ทำงานก็อาจจะเลือกประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดส่วนแรกจะช่วยลดค่าเบี้ยต่อปีได้
- ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา สำหรับผู้ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว แนะนำให้ทำประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาที่จ่ายเบี้ยต่อปีน้อยแต่คุ้มครองชีวิตสูงกว่าการทำประกันชีวิตประเภทอื่นๆ โดยทุนประกันที่ทำควรจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคนที่เราดูแลรวมถึงภาระหนี้สินที่มีอยู่
- ประกันวัยกลางคน 40-50+ อยู่ในช่วงพีคของชีวิตการทำงาน รายได้ต่อปีสูงกว่าช่วงวัยอื่น ซึ่งมักเป็นเสาหลักของครอบครัว เริ่มมีทรัพย์สิน มีเป้าหมายทางการเงินของชีวิตชัดเจนขึ้น แต่จะเริ่มรู้สึกถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ ดังนั้น คนวัยนี้ควรทำประกัน
- ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงที่มีความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาและเงินก้อนหากตรวจพบโรคร้ายสูง
- ประกันชีวิตที่มีทุนความคุ้มครองสูง เพื่อเป็นหลักประกันคุ้มครองครอบครัวในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่เราต้องจากครอบครัวไปอย่างกระทันหัน
- ประกันบำนาญ สำหรับสร้างหลักประกันหลังเกษียณ ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ และสามารถส่งต่อเงินก้อนเป็นมรดกให้กับลูกหลาน
- ประกันวัยเกษียณ 60+ เป็นวัยที่เข้าสู่ช่วงที่ไม่มีรายได้จากงานประจำแต่อาจเริ่มมีข้อจำกัดด้านสุขภาพ มีความคาดหวังสำคัญคือ “อยู่อย่างมีคุณภาพ” และ “ไม่เป็นภาระลูกหลาน” ประกันที่ควรมีติดตัวคือ
- ประกันสุขภาพ และโรคร้ายแรง ธนาคารทิสโก้แนะนำให้รักษากรมธรรม์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงที่ทำไว้ในช่วงวัยทำงาน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง กรณีที่ค่าเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุจนอาจจ่ายค่าเบี้ยไม่ไหวนั้น อาจปรึกษาบริษัทผู้รับประกันเพื่อขอปรับแผนเป็นแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) เพื่อให้ค่าเบี้ยในแต่ละปีถูกลง ทั้งนี้ เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมักเป็นค่าใช้จ่ายหลักของวัยเกษียณ การมีประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย
- ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ จ่ายเบี้ยน้อยแต่ได้รับความคุ้มครองสูง ในกรณีที่เสียชีวิตยังสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานได้ด้วย
- ประกันชีวิตเพื่อเตรียมส่งมอบเป็นมรดกให้ลูกหลาน ถือเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะมีการส่งต่อทรัพย์สินที่ชัดเจนสำหรับผู้รับผลประโยชน์และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งทางด้านภาษีมรดก การค่าดำเนินการต่างๆทางกฎหมาย อีกทั้งยังทำให้ผู้รับได้รับมรดกที่รวดเร็วอีกด้วย
- ประกันอื่นๆ
นอกจากประกันที่กล่าวมาข้างต้น หากมีบ้านหรือรถยนต์ ควรทำประกันอัคคีภัยบ้านและประกันรถยนต์ เพื่อช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดความเสียหาย และควรทำประกันสะสมทรัพย์ นอกจากช่วยออมเงินในระยะยาวแล้วยังเป็นเครื่องมือบริหารภาษีได้อีกด้วย
“ ประกันที่วางแผนไว้ดีจึงไม่ใช่แค่ช่วย “จ่ายแทน” แต่ยังช่วย “ปกป้องความเสี่ยง” และอนาคตของเรากับคนที่เรารักให้เดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง การวางแผนประกัน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล เป็นการถ่ายโอนความเสี่ยงที่เกิดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันและส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของเรา ซึ่งแม้ว่าจะขจัดความเสี่ยงได้ไม่ทั้งหมด เราก็ยังอุ่นใจว่าจะได้เงินจากบริษัทประกันมาช่วยบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ” นายณัฐกฤติกล่าว
Symbol: TISCO