รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า ปีการศึกษา 2569 มหาวิทยาลัยมีแผนรับนักศึกษาเข้าเรียนต่อรวมทุกคณะ จำนวน 6,856 คน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นกลุ่มนักเรียนสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4,426 คน รับ 4 รอบ ได้แก่ รอบ Portfolio 1,952คน รอบ Quota 1,279 คน รอบ Admission 985 คน และรอบรับตรง 210 คน กลุ่มนักศึกษาสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) รวม 2,460 คน รับ 2 รอบ ได้แก่ รอบ Quota 1,266 คน รอบสอบตรง 1,164 คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มทร.ธัญบุรีได้ขออนุมัติเปิดหลักสูตรใหม่ 6 หลักสูตรในปีการศึกษาหน้า หากได้ผ่านการพิจารณาจะมีการรับนักศึกษาเพิ่มขึ้น 270 คนหรือประมาณ 5 %

อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ภาพรวมการรับนักศึกษาของแต่ละคณะจะมีการปรับตัวเลขเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย นอกจาก คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ ประมาณ 13% จาก 690 คน เป็น 780 คน เนื่องจากการขยายการเปิดรับของสาขา อุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิต (อส.บ.) เทคโนโลยีการผลิต กลุ่มต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 30 คน และการเปิดสาขาใหม่ อส.บ.อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ กลุ่มต่อเนื่องจำนวน 60 คน นอกจากนี้ในปีการศึกษา 2569 ยังได้มีการขยายโอกาสให้กับผู้เรียนกลุ่มใหม่ คณะศิลปศาสตร์ 2 สาขา ในกลุ่มเทียบโอนพิเศษ ได้แก่ สาขาการจัดการโรงแรม และสาขาอุตสาหกรรมการบริการการบิน สาขาละ 30 คน และคณะบริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ 2 สาขา ได้แก่ สาขา Finance and Economics และ สาขา Innovative Business Management สาขาละ 35 คน โดยจะทำการเปิดรับในรอบ TCAS 2
รศ.ดร.สมหมาย กล่าวต่อว่า การรับนักศึกษาในแต่ละปีเพื่อเป็นการลดผลกระทบด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าสมัครสอบให้กับผู้ปกครอง มหาวิทยาลัยจึงมีนโยบายหากนักเรียนสมัคร ในรอบ TCAS 1,2 และ 4 ชำระค่าสมัครสอบเพียงครั้งเดียว ถ้าไม่ติดในรอบใดสามารถสมัครรอบต่อไปโดยไม่ต้องชำระค่าสมัครเพิ่มเติม รวมถึงมีการลดค่าสมัคร ในรอบโควตา รอบสอบตรง ของระดับชั้นปวช. ปวส. เช่นกัน โดยการรับนักศึกษามหาวิทยาลัยจะดำเนินการให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานการรับตามที่ทปอ.กำหนด โดยให้ความสำคัญกับสถานศึกษาในเครือข่ายที่มีการลงนามความร่วมมือของสิทธิในการเข้าศึกษาต่อเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งมทร.ธัญบุรี คาดว่าจำนวนการสมัครในปีการศึกษาหน้าจะมีอัตราที่ไม่ลดลงจากปี 2568 เนื่องจากอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
