พร้อมบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล อัตราหุ้นละ 7 สตางค์ 9 ธ.ค.นี้

ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปีบัญชี 68/69 (ก.ค.-ก.ย.68) บริษัทมียอดขาย 3,436 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 3,606 ล้านบาท หรือ ลดลง 4.7% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 32.4% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 30 – 33% และ มีกำไรสุทธิที่ 317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134% เนื่องจากธุรกิจร่วมทุนในแอฟริกาใต้มีสภาพคล่องดีขึ้น อย่างไรก็ตามไตรมาสนี้ บริษัทได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สำหรับผลการดำเนินงานตาม 3 กลุ่มธุรกิจหลัก มีดังนี้
ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มียอดขาย 1,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากช่วงเดียวกันของปีบัญชีก่อน และ เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากความต้องการฉนวนกันความร้อน/เย็น Aeroflex ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกาและในประเทศ Aeroflex USA Inc. มียอดขายเติบโตแข็งแกร่งจากความต้องการสินค้าฉนวนเกรดพรีเมียม โดยเฉพาะในกลุ่ม Ultra Low Temperature Insulation และ Air Ducting System ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม Semi-conductor/ Cloud/ Data Center และยานยนต์ แม้ว่ายอดขายในไตรมาสนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนเนื่องจากลูกค้าได้สั่งซื้อล่วงหน้าก่อนการปรับเพิ่มราคา อย่างไรก็ตามยอดขายกลับเข้าสู่ระดับปกติในช่วงปลายไตรมาส บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะจากกระแส Reshoring ที่กระตุ้นการลงทุนภาคอุตสาหกรรม ส่งผลบวกต่อศักยภาพการผลิตของบริษัทในระยะยาว ขณะที่ตลาดในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากแรงหนุนของกลุ่มลูกค้าโครงการ ได้แก่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าในกลุ่ม HVAC และ Air Ducting ยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ บริษัทได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าขึ้นในบางช่วง
ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มียอดขาย 1,666 ล้านบาท ลดลง 13.9% จากช่วงเดียวกันของปีบัญชีก่อน และ แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สะท้อนการฟื้นตัวที่ล่าช้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยและออสเตรเลีย สำหรับแอร์โรคลาสการผลิตส่งให้แก่กลุ่มลูกค้า OEM ชะลอตัวตามกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งนี้ Aeroklas ได้ใช้ช่วงเวลานี้ปรับโครงสร้างต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อเตรียมพร้อมรับการฟื้นตัวของตลาดในระยะต่อไป
ส่วนธุรกิจในออสเตรเลีย ยอดขายของ Aeroklas Asia Pacific Group Pty.,Ltd. (AAPG) ใกล้เคียงกับปีบัญชีก่อนและไตรมาสก่อน โดยภาพรวมการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ 4Way Suspension Product Pty., Ltd. ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มระบบกันสะเทือน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเร่งยอดขายในช่วงครึ่งหลังของปีบัญชี
Aeroklas ให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างรัดกุมและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันภายใต้แรงกดดันของอุตสาหกรรมยานยนต์ในขณะนี้
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขาย 658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีบัญชีก่อน และ เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากความต้องการบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ที่เติบโตต่อเนื่อง จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าระดับอุตสาหกรรม ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล ได้แก่ มอก./ GMP/ HACCP/ BRC และ FSC (Forest Stewardship Council) ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง นอกจากนี้ บริษัทเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนและรักษาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
บริษัทมีต้นทุนขายสินค้าที่ 2,321 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีบัญชีก่อน และเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นอัตราการลดลงที่ช้ากว่าการลดลงของยอดขาย ทั้งนี้ ต้นทุนขายใน ไตรมาสนี้ สะท้อนต้นทุนจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยบริษัทได้จัดหาวัตถุดิบจากหลายแหล่งผลิตเพื่อรักษาต้นทุนเฉลี่ยของวัตถุดิบให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และจะยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง Aeroflex USA Inc. บริษัทย่อยในสหรัฐอเมริกา บริหารจัดการต้นทุนเพื่อรองรับผลกระทบด้านภาษีในระยะสั้น โดยถือครองวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูปในระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 835 ล้านบาท ลดลง 11.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีบัญชีก่อน และลดลง 2.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยบริษัทดำเนินการปรับโครงสร้างต้นทุนของธุรกิจในออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในระยะยาว
บริษัทมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 15 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐและแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย
นอกจากนี้ บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ 69 ล้านบาท มาจากผลประกอบการของธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น และธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับธุรกิจร่วมทุนในแอฟริกาใต้ สถานการณ์ปัจจุบันมีพัฒนาการเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างต้นทุนการผลิตในทุกระดับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และบริหารต้นทุนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้ธุรกิจร่วมทุนเริ่มมีกระแสเงินสดรับเพิ่มขึ้น และสามารถทยอยจ่ายค่าสินค้าให้แก่ บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด
ดร.เฉลียว กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 68 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุด 30 ก.ย. 68 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท (เจ็ดสตางค์) รวมเป็นจำนวนเงิน ทั้งสิ้น 196 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 28 พ.ย.68 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 ธ.ค.68
บริษัทมั่นใจว่า โครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจน และการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกมิติ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงในปีบัญชี 2568/2569 ภายใต้นโยบาย ‘USE’ ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร

Symbol: EPG
