SCBX เปิด 4 เทรนด์ใหญ่ที่องค์กรไทยต้องรู้ ในรายงาน AI Outlook Vol.2 2025

ยุคของ “AI ที่ใหญ่ที่สุด” ผ่านไป มุ่งสร้าง “AI ที่ไว้ใจได้” ด้วยข้อมูลคุณภาพและความรับผิดชอบ

เอสซีบีเอกซ์ (SCBX) กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของไทย เปิดตัวรายงาน “SCBX AI Outlook Vol.2 2025: Navigating AI Power, Responsibility and Reality” ฉบับที่สองของปี ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี และแบ่งปันประสบการณ์จริงในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในบริบททางธุรกิจที่หลากหลาย

รายงานฉบับนี้ออกมาในช่วงเวลาสำคัญที่ AI ได้ก้าวข้ามจากการเป็นเพียงเครื่องมือ สู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ขับเคลื่อนทั้งระบบเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน โดยมุ่งเน้นการค้นหาคำตอบสำหรับคำถามสำคัญที่ว่า “AI ที่เก่งที่สุด…จะยังเป็น AI ที่มนุษย์ไว้ใจได้หรือไม่?”

จาก “การแข่งด้วยขนาด” สู่ “การแข่งด้วยคุณภาพ”

ดร.ทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ Head of R&D บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “ภูมิทัศน์การแข่งขันด้าน AI ได้เปลี่ยนไป ยุคของการมุ่งสร้างโมเดลที่ใหญ่ที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่โจทย์สำคัญในวันนี้คือ การนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้จริง ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบ”

“ความสามารถในการแข่งขันที่แท้จริงและยั่งยืนไม่ได้อยู่ที่การครอบครองโมเดลที่ดีที่สุดอีกต่อไป แต่หัวใจสำคัญ คือ การเข้าถึงข้อมูลคุณภาพสูงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ (unique, high-quality data) ซึ่งคู่แข่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ และ ‘ความแข็งแกร่ง’ ของระบบนิเวศ (ecosystem) ที่เชื่อมโยงบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน” ดร.ทุตานนท์ กล่าวเสริม

ดร.ทุตานนท์ ระบุว่า หนึ่งในภารกิจของทีมวิจัยและพัฒนาของ SCBX คือ การถอดรหัสความเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนนี้ และส่งต่อองค์ความรู้สู่มือนักนวัตกรรมและผู้ประกอบการไทย เพื่อให้สามารถแปลงเทรนด์เหล่านี้ให้เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่นำไปปฏิบัติได้จริง อันจะนำไปสู่การสร้างโซลูชัน AI ที่มีประสิทธิภาพและได้รับความไว้วางใจ เพื่อปลดล็อกการเติบโตที่แตกต่างและยั่งยืนในสมรภูมิที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์

4 เทรนด์สำคัญที่องค์กรไทยต้องเข้าใจ

รายงาน SCBX AI Outlook Vol.2 2025 ซึ่งรวบรวมและถอดรหัสจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลก AI โดยทีม R&D and Innovation Lab ของ SCBX ได้สรุป 4 เทรนด์ใหญ่ ที่องค์กรและนักพัฒนาควรทำความเข้าใจ เพื่อรับมือกับความเสี่ยง ความรับผิดชอบ และโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ดังนี้

1.Closing the Gap – โมเดลเปิดท้าชนยักษ์ใหญ่

การแข่งขันระหว่าง AI “โมเดลสายเปิด” และ “โมเดลสายปิด” กำลังทวีความเข้มข้น แม้ว่าโมเดลขนาดใหญ่แบบปิด เช่น GPT-5 จะยังคงมีประสิทธิภาพนำหน้า แต่ช่องว่างกำลังแคบลงอย่างรวดเร็ว ด้วยนวัตกรรมจากโมเดลแบบเปิด เช่น Qwen และ DeepSeek ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เทรนด์นี้ส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ AI ที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักพัฒนาและองค์กรทั่วโลก

2.Beyond Scaling – จากการเติบโตไร้ขีดจำกัดสู่การให้เหตุผลที่ชาญฉลาด

ยุคของการเพิ่มขนาด AI แบบไร้ขีดจำกัดกำลังจะเปลี่ยนไป AI กำลังมุ่งหน้าสู่การพัฒนาที่ “ฉลาด” ขึ้น โดยเน้นที่การเพิ่มขีดความสามารถด้านการให้เหตุผลอย่างมีคุณภาพ แม้จะมีขนาดเล็กลง เช่น การใช้เทคนิค Reinforcement Learning ที่ช่วยให้ AI สามารถ “คิด” และตอบโจทย์ที่ซับซ้อนได้อย่างมีกลยุทธ์และมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

นายศักย์ศรณ์ เรืองฐานุศักดิ์ AI Researcher จาก SCBX กล่าวว่า “เราเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญที่การเพิ่มขนาดของโมเดลไม่ใช่คำตอบเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แนวทางใหม่ที่เน้นการคิดก่อนตอบอย่างชาญฉลาด กำลังเปิดมิติใหม่ให้กับ AI ทำให้สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้ทรัพยากรน้อยลง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้แก้ปัญหาทางธุรกิจที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึกและการตัดสินใจที่รอบคอบ”

3.With Great AI Power Comes Great AI Responsibility – พลังยิ่งใหญ่ ความรับผิดชอบยิ่งมาก

เมื่อพลังของ AI ยิ่งใหญ่ขึ้น ความรับผิดชอบก็ต้องยิ่งมากขึ้น การกำกับดูแลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หน่วยงานต่างๆ เช่น EU AI Act กำลังกำหนดมาตรฐานและกฎความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเรียกร้องให้มีการควบคุม AI ในทุกระดับ ตั้งแต่เรื่องของความปลอดภัย (เช่น LawZero และ SSI) ไปจนถึงการนำหลักการ “Responsible AI” มาใช้จริงและปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อลดความเสี่ยงด้านความรุนแรงและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

นายณัฎฐ์ ชูกำแพง Senior AI Researcher จาก SCBX มองว่า “ในโลกที่ความเปราะบางและความซับซ้อนเพิ่มขึ้นทุกวัน การสร้าง AI ที่มีความรับผิดชอบ (Responsible AI) ไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่เป็นความจำเป็น เราต้องออกแบบระบบ AI ที่ไม่เพียงแต่ทรงพลัง แต่ยังต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม นี่หมายถึงการฝังหลักการด้านจริยธรรม ความเป็นธรรม และความปลอดภัยเข้าไปในทุกขั้นตอนของการพัฒนา AI ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการนำไปใช้งานจริง องค์กรที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความรับผิดชอบจะเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจและประสบความสำเร็จในระยะยาว”

4.The Reality Engine – สอน AI ให้เข้าใจโลกแห่งความจริง

นักวิจัยชั้นนำ เช่น Fei-Fei Li และผู้พัฒนา World Models กำลังพยายามสอนให้ AI เข้าใจโลกแห่งความเป็นจริงที่ซับซ้อน ไม่ใช่เพียงแค่จากข้อความ แต่จากบริบททางกายภาพและสภาพแวดล้อม แนวทางนี้รวมข้อดีของ DeepMind และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบที่เข้าใจโลกได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น

AI ไม่ใช่เพียงเครื่องมือ แต่คือแรงขับเคลื่อนโลกใหม่

รายงาน SCBX AI Outlook 2025 ฉบับนี้ชี้ชัดว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือแรงขับเคลื่อนโลกใหม่ องค์กรที่พร้อมที่สุดคือองค์กรที่เข้าใจ AI ใช้ข้อมูลเชิงลึกวางกลยุทธ์ เตรียมโครงสร้างพื้นฐาน และฝึกฝนทักษะให้พร้อม เพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างมั่นคงในโลกอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์

SCBX มุ่งมั่นที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจไทยสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มศักยภาพ สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็น AI-first Organization ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังกำหนดทิศทางของทุกอุตสาหกรรม

ที่มา: เอสซีบีเอกซ์