NEO ดัน “ดีนี่” โตสวนกระแส ทะยานขึ้นเบอร์ 1 แบรนด์นำเข้า กลุ่ม Baby Liquid Soap ในเวียดนาม

บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของแบรนด์ “D-nee” (ดีนี่) ในตลาดเวียดนาม โดยสบู่เหลวเด็กดีนี่มีการเติบโตถึง 369% นับจากเข้าไปทำการตลาดอย่างจริงจังในปี 2565 โดยครองตำแหน่งแบรนด์นำเข้าอันดับ 1 และติด Top 5 ของตลาดสบู่เหลวสำหรับเด็ก ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 8.6% และตั้งเป้าติด Top 3 ในปี 2569

นางปัทมา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวิสัยทัศน์และโอกาสทางธุรกิจว่า “เวียดนามคือตลาด Rising Star ของอาเซียนที่ NEO ให้ความสำคัญสูงสุด ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารโลกคาดการณ์ GDP ปีนี้ไว้ที่ +6.8% เรามองเห็นโอกาสจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคตามรายได้เฉลี่ยที่สูงขึ้น ประกอบกับโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่พร้อมเปิดรับนวัตกรรมและมีไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองมากขึ้น รวมถึงปัจจัยสำคัญอีกประการคือความนิยมและความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทย ทำให้แบรนด์ของเราเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคชาวเวียดนามได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นจากแบรนด์ทั่วโลก นอกจากนี้ เวียดนามยังมีอัตราการเกิดของประชากร (Birth Rate) ในระดับที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังการซื้อในปีหน้า (2569) เป็นปีนักษัตร “มะเมีย” (ปีม้า) ซึ่งชาวเวียดนามเชื่อว่าเป็นปีมงคลสำหรับการมีบุตร นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนถึงศักยภาพการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัด สำหรับ NEO ในตลาดเวียดนาม

NEO ได้วางกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเจาะตลาดนี้ คือ ขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับการสร้าง Brand Awareness ให้แข็งแกร่งในวงกว้าง และปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคในเวียดนาม (Product Localization) ซึ่งกลยุทธ์นี้ได้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

“ความสำเร็จจากกลยุทธ์การเจาะตลาดของใช้สำหรับเด็กของเวียดนามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Baby Liquid Soap ที่พุ่งสูงกว่า 369% นับจากปี 2565 และมีแผนตั้งเป้าเติบโตเป็น Top 3 ภายในปี 2569 อีกทั้งยังมีเป้าหมายที่ท้าทายในการผลักดันให้ยอดขายดีนี่ในเวียดนามเติบโตขึ้น 3 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้า” นางปัทมา กล่าว

นางศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “NEO ส่งออกผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดเวียดนามตั้งแต่ปี 2551 มุ่งเน้นการขยายฐานผู้บริโภคที่แข็งแกร่งด้วยการนำเสนอสินค้าคุณภาพสูง ที่ผ่านการคิดค้นและพัฒนาให้สอดรับไลฟ์สไตล์คนเมืองและคนรุ่นใหม่ ทำให้ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กดีนี่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์สบู่เหลวเด็กดีนี่”

3 กลยุทธ์สำคัญที่ผลักดัน “ดีนี่” สู่ความสำเร็จในปี 2568

  1. สร้างการรับรู้แบรนด์ หรือ Brand Awareness ในวงกว้าง (Brand Investment)

สร้างกลยุทธ์ทางการสื่อสารให้ตรงใจกลุ่มผู้บริโภคชาวเวียดนาม โดยใช้ KOCs (Key Opinion Consumers) และ Influencers กลุ่มคุณแม่มือใหม่ที่มีความเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีนี่ เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์รีวิวสินค้าจากผู้ใช้จริง พร้อมกับการให้ความสำคัญกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สบู่เหลวเด็กดีนี่สูตรใหม่ๆ ในงาน VietBaby Fair 2025 ที่โฮจิมินห์และฮานอย ซึ่งได้สร้างกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของดีนี่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับแบรนด์ในตลาดเวียดนามโดยรวม

  1. ขยายช่องทางจำหน่ายเชิงรุก (Distribution Expansion)

เร่งขยายเข้าสู่ Modern Trade ชั้นนำ เช่น Emart, Lotte, WinMart และ Baby Shop ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในตลาดเวียดนาม เพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมวางแผนรุกตลาด e-Commerce เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการเข้าถึงผู้บริโภค

  1. ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจ (Product Adaptation):พัฒนาและปรับขนาดผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคชาวเวียดนาม โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัวเป็นหลัก ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กดีนี่ ขนาด 3,600 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นขนาดที่นิยมของผู้บริโภคชาวเวียดนาม

ภายใต้แผนดำเนินงานดังกล่าว คาดการณ์ว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของแบรนด์ดีนี่ในเวียดนามตลอดทั้งปีนี้ได้ถึง 34% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมามีความท้าทายสำคัญ คือ รัฐบาลเวียดนามปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อเพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า ส่งผลให้ภาพรวมตลาดกลุ่มสบู่เหลวเด็กหดตัวลง -2.4% แต่สถานการณ์นี้กลับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่พิสูจน์ความแข็งแกร่ง และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ดีนี่ เพราะสามารถเติบโตสวนกระแส ผลักดันให้ครองตำแหน่งแบรนด์นำเข้าอันดับ 1 และติด Top 5 ของตลาดในภาพรวม ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 8.6%

“ความสำเร็จของดีนี่ ในเวียดนามสะท้อนถึงความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง เราไม่เพียงแต่นำเสนอสินค้าคุณภาพ แต่ยังปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และในปี 2569 เราจะยกระดับการสร้าง Brand Experiences ผ่านกิจกรรม On-ground Activations กว่า 100 จุด ใน 2 เมืองหลัก และเดินหน้าบุกตลาด e-Commerce ทั้งบน Shopee และ TikTok อย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรลุเป้าหมายการก้าวขึ้นสู่ Top 3 ในตลาดให้ได้” นางศิริสุภากล่าว

ที่มา: โอกิลวี่

Symbol: NEO