เปิดฉากมหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียน ASEAN SHOP 2025

ภาคธุรกิจค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม เชื่อมั่นตลาดอาเซียนยังเติบโต หนุนจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ ASEAN SHOP 2025 – มหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียน นำผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ เครื่องอัตโนมัติ รวมถึงระบบเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่มกว่า 300 บริษัท จาก 20 ประเทศร่วมจัดแสดงบนพื้นที่ 10,000 ตร.ม. ณ อาคารแสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2568 พร้อมกิจกรรมแข่งขันค้นหาสุดยอดเชฟและบาร์เทนเดอร์ อีกทั้งการเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ที่น่าสนใจ คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 10,000 คน สร้างมูลค่าซื้อขายรวมมากกว่า 100 ล้านบาท 

ในพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารตัวแทนหน่วยงานจากประเทศไทยและจีนเข้าร่วมงานจำนวนมาก อาทิ เชฟ เสาวกิจ ปรีเปรม นายกสมาพันธ์เชฟประเทศไทย นายชาลี ตั้งพลพิสุทธิ์ นายกสมาคมนักบริหารงานอาหารและเครื่องดื่ม นายสิริเชษฐ์ จิรพงษ์วัฒนะ อุปนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย นายกวิน นิทัศนจารุกุล รองนายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ ดร.จันทร์จนา ศิริพันธ์วัฒนา อุปนายกสมาคมเบเกอรี่ประเทศไทย ดร.ดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการ ฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (TCEB) นายหยวน เจี๋ย เลขาธิการและนายกสมาคมผู้บริหารสมาพันธ์อุตสาหกรรมเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแห่งเอเชียแปซิฟิก  นายอวี๋ เอินเจ๋อ นายกสมาคมผู้ประกอบการแห่งเอเชียแปซิฟิก และนายกสมาคมธุรกิจอัจฉริยะแห่งสมาพันธ์ธุรกิจจีน 

นายหวัง เจ้าหยุน ประธานบริหาร บริษัท กวางตง แกรนเดอร์ เอ็กซิบิชั่น กรุ๊ป กล่าวถึงการจัดงาน ASEAN SHOP 2025 หรือ มหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียน เป็นงานแสดงสินค้าที่เกิดจากการรวมตัวของสองงานสำคัญ ได้แก่ VEND ASEAN และ FNB ASEAN นำผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ เครื่องอัตโนมัติ รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่มกว่า 300 ราย จาก 20 ประเทศ อาทิ ไทย จีน บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ฯลฯ ร่วมจัดแสดงสินค้าบนพื้นที่เดียวกันกว่า 10,000 ตร.ม. งานนี้ถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าปลีกและบริการตนเองในภูมิภาคอาเซียน โดยมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

“ปัจจุบันคลื่นแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลและการยกระดับการบริโภคกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก ธุรกิจค้าปลีกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งธุรกิจจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและธุรกิจค้าปลีกอัจฉริยะในฐานะพลังสำคัญในการนำเสนอประสบการณ์การบริโภครูปแบบใหม่ ได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพก้าวขึ้นเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมีขนาดการบริโภคของภาคประชาชนสูงถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และขนาดตลาดค้าปลีกรวมอยู่ที่ 6.527 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ขนาดของธุรกิจค้าปลีกอีคอมเมิร์ซยังสูงถึง 1.353 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้น (CAGR) ระหว่างปี 2015-2024 สูงถึงร้อยละ 35.8 ภูมิภาคนี้มีโครงสร้างประชากรที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวและมีความก้าวหน้าทางดิจิทัลอย่างรวดเร็ว โดยกว่าร้อยละ 60 ของผู้บริโภคคุ้นเคยกับการใช้การชำระเงินแบบไร้สัมผัสเพื่อซื้อสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งเปิดโอกาสการใช้งานอันกว้างขวางสำหรับอุปกรณ์ค้าปลีกอัจฉริยะ”

ข้อมูลอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นว่า ตลาดเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทั่วโลกกำลังเติบโตในอัตราปีละร้อยละ 7.4-8 และคาดว่าจะสูงถึง 1.038 แสนล้านหยวนภายในปี 2028 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัจฉริยะซึ่งเป็นผู้นำการเติบโตของอุตสาหกรรมทั้งหมดด้วยอัตราการเติบโตถึงร้อยละ 15.4 โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีส่วนช่วยในการเติบโตทั่วโลกถึงร้อยละ 40 ซึ่งในจำนวนนี้ ขนาดตลาดเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของจีนในปี 2025 ได้ทะลุ 3 หมื่นล้านหยวนไปแล้ว ขณะที่อินเดียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวขึ้นเป็นขั้วการเติบโตใหม่ที่ได้รับประโยชน์จากอัตราประชากรที่อยู่ในวัยแรงงานและคลื่นดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการเติบโตแบบทวีคูณ 

นายหวัง กล่าวอีกว่า ภายในงานมหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียนครั้งนี้ประกอบด้วย 6 โซนจัดแสดงหลัก ได้แก่ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและบริการเครื่องอำนวยความสะดวกอัตโนมัติ, อาหารและเครื่องดื่ม, ระบบชำระเงินเชิงพาณิชย์, การตกแต่งและจัดแสดงร้านค้า, การเก็บรักษาความสดและทำความเย็น และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะนำเสนออุปกรณ์ใหม่, เทคโนโลยีใหม่ และโซลูชันใหม่จากทั่วโลก ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานเชิงพาณิชย์ทั้งหมด ได้แก่ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ, ระบบบริการตนเอง, ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์บริการตนเอง, โซลูชันค้าปลีกอัจฉริยะ, ระบบชำระเงิน, อุปกรณ์และเทคโนโลยีถนอมความสด, การออกแบบและการจัดแสดงร้านค้า, อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านสะดวกซื้อ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสรรค์แพลตฟอร์มความร่วมมือทางการค้าแบบบูรณาการที่เชื่อมโยงข้อมูลและส่งเสริมความสำเร็จร่วมกัน ที่นี่เราจะได้เห็น “ความสามารถที่แท้จริง,” “ศักยภาพที่แข็งแกร่ง” และ “ภาพลักษณ์ใหม่” ของธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดแสดงสามารถขยายอาณาจักรธุรกิจจากตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ตลาดโลกได้อย่างกว้างขวาง 

เชฟ เสาวกิจ ปรีเปรม นายกสมาพันธ์เชฟประเทศไทย กล่าวเสริมถึงกิจกรรมการแข่งขันเพื่อค้นหาสุดยอดเชฟและบาร์เทนเดอร์ในงานมหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียนครั้งนี้ จัดขึ้นในวันที่ 3-4 กันยายน 2568 โดยการสนับสนุนและความร่วมมือของสมาคมต่างๆ ด้านอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทย แบ่งการแข่งขันเป็น 2 รายการ ได้แก่ 1.) MIXILOGIST COMPETITION การแข่งขันทำอาหารจากวัตถุดิบที่กำหนดเป็นปลาแซลมอน เป็ด และวัตถุดิบลับที่มาในกล่องดำ ซึ่งจัดการแข่งขันใน 2 รุ่นซีเนียร์และจูเนียร์ รายการที่ 2.) FLAIR BARTENDING COMPETTITION การแข่งขันชงเครื่องดื่ม ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานประจำบาร์ ร้านอาหาร โรงแรมต่างๆ รวมถึงนักศึกษาด้านการโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยว ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเข้าแข่งขันฯ โดยการคัดเลือกและตัดสินจากคณะกรรมการ ตัวแทนสมาคมนักบริหารอาหารและเครื่องดื่ม และผู้ที่เชี่ยวชาญร่วมตัดสินหาผู้ชนะในแต่ละประเภท 

ทั้งนี้ พิธีเปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจาก ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสถาบันอาหาร มาเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 3 กันยายน 2568 ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมชมและเชียร์ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 รายการ มาร่วมลุ้นค้นหาสุดยอดนักปรุงและนักชงจากเวทีนี้ พร้อมยินดีกับผู้ชนะรับเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท อีกทั้งได้มาเยี่ยมชมสินค้าและบริการภายในงาน ASEAN SHOP 2025 – มหกรรมธุรกิจร้านค้าอาเซียน งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงสินค้า แต่ยังเป็นเวทีที่นำเสนอโซลูชันและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสามารถก้าวทันโลกยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีสำหรับร้านค้าที่นำมาจัดแสดงจะช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับการทำงานของเชฟและผู้ประกอบการทุกคน

ที่มา: อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์