CHERY ปฏิบัติการขยายธุรกิจสู่เวทีโลก เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของยานยนต์จากประเทศจีน ด้วยยอดส่งออกทะลุ 5 ล้านคัน

CHERY Group (เชอรี กรุ๊ป) บรรลุเป้าหมายครั้งสำคัญของการส่งออกรถยนต์ทะลุ 5 ล้านคันในเดือนมิถุนายน 2568 โดยเป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนแบรนด์แรกที่ก้าวสู่ความสำเร็จนี้ อันเป็นผลมาจากการเป็น แบรนด์รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ครองอันดับ 1 ในการส่งออกของจีนต่อเนื่องกันถึง 22 ปี โดยตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษของการเดินทางสำรวจโลกและความเป็นผู้นำนี้ CHERY ได้ขยายตลาดในต่างประเทศถึง 120 ประเทศในภูมิภาคทั่วโลก มีผู้ใช้งานมากกว่า 17 ล้านคน สะท้อนถึงการยอมรับในระดับสากลที่ก้าวข้ามความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ ในห้วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์โลกกำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ พลังงานใหม่ การพัฒนาระบบอัจฉริยะ และ การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางธุรกิจจากการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ “ผลิตในประเทศจีน” (Made in China) ไปสู่การ “อยู่ร่วมกันในระดับโลก” (Global Coexistence) ผ่านการสร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์ระดับโลกที่มีความโดดเด่นแตกต่าง เทคโนโลยีไฮบริดชั้นนำระดับโลก การสร้างระบบนิเวศร่วมกันในท้องถิ่น และแนวปฏิบัติระดับโลกที่มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน

เบื้องหลังความสำเร็จระดับโลก: การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างและการสร้างระบบนิเวศร่วมกันในท้องถิ่น

ด้วยปรัชญา “อยู่ที่ใด เพื่อที่นั่น” (In somewhere, For somewhere) CHERY ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่าน “4 พัฒนาการหลัก” สำหรับตลาดต่างประเทศ ได้แก่ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนของผลิตภัณฑ์ การสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ และความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังนำเสนอระบบส่งกำลังที่ครอบคลุมหลากหลายประเภท ทั้งระบบสันดาปภายใน ระบบไฮบริด ระบบขยายระยะทาง และระบบไฟฟ้าล้วน โดยปัจจุบันได้ตั้งเป้าขยายตลาดยุโรปมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่มีทั้งกฎระเบียบและมาตรฐานที่เข้มงวด ด้วยความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ทางการตลาดที่แม่นยำ ทำให้สามารถทำยอดขายในแต่ละเดือนได้มากกว่า 10,000 คัน และส่งผลให้เป็นแบรนด์รถยนต์หน้าใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรป ที่สำคัญคือ รถยนต์คันที่ 5,000,000 ของ CHERY ยังถูกส่งมอบในประเทศโปแลนด์ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของแบรนด์ในตลาดยุโรป 

สำหรับ CHERY กระแสโลกาภิวัตน์ไม่ได้เป็นเพียง “การนำรถยนต์ไปขายในต่างประเทศ” เท่านั้น แต่คือการตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของคนในท้องถิ่นนั้น ๆ และดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในการเป็น “ผู้ร่วมสร้างสรรค์คุณค่า” และ “ส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน” การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในตลาดต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากการบรรลุความร่วมมือแบบวิน-วินกับประเทศต่าง ๆ ไปจนถึงการสร้างพันธมิตรทั้งระบบ บุคลากร นวัตกรรม อุตสาหกรรม และห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้เกิดผลสำเร็จร่วมกัน และอีก 1 ปัจจัยสำคัญคือ การบูรณาการเข้ากับห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในระดับท้องถิ่น พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่น การร่วมสร้างสรรค์กับระบบนิเวศในท้องถิ่น ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ CHERY ได้รับการยอมรับและไว้วางใจไปทั่วโลก พร้อมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่หยั่งรากลึกในใจของผู้คน

หลักยึดทางเทคโนโลยี: จากการเป็นผู้ตาม สู่ผู้กำหนดกติกาด้วยความมั่นใจเต็มร้อย

ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงานแบบ “ไม่อย่างนี้ก็ต้องเป็นอีกอย่าง” CHERY ได้บุกเบิกทางเลือกที่ 3 ด้วย กลยุทธ์ “การอยู่ร่วมกันอย่างชาญฉลาดของน้ำมันและไฟฟ้า” (Oil-Electric Co-Intelligence) เครื่องยนต์ 2.0TGDI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับระบบไฮบริดและระบบเกียร์ DHT ซีรีส์ใหม่ ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมแล้วในวันนี้ โดยให้พละกำลังสูงสุดได้ถึง 280 กิโลวัตต์ และความเร็วรอบมอเตอร์สูงสุด 24,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ไฮบริดเจเนอเรชันที่ 7 นี้ ยังมอบประสิทธิภาพเชิงความร้อนกว่า 48% ซึ่งนับว่าเป็นระดับแนวหน้าของโลก ช่วยผลักดันเทคโนโลยีไฮบริดของโลกให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่จำกัดความได้เปรียบทางเทคโนโลยีไว้แค่ในตลาดระดับไฮเอนด์เท่านั้น แต่เลือกที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฮบริดออกมา 39 รุ่นทั่วโลก นั่นหมายความว่า CHERY กำลังส่งเสริมให้เทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูงมีความแพร่หลายในวงกว้าง รถยนต์ไฮบริดรุ่นเด่นอย่าง TIGGO8 และ TIGGO7 กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศและภูมิภาคทั่วโลก เบื้องหลังความสำเร็จอันยอดเยี่ยมในตลาดรถยนต์ดังกล่าวนี้ เป็นผลลัพธ์จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเทรนด์การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียวระดับโลก และด้วยเทคโนโลยีที่ครอบคลุมและทุกคนเข้าถึงได้เท่านั้น ที่จะช่วยเร่งกระบวนการปล่อยคาร์บอนสุทธิให้เป็นศูนย์ทั่วทั้งอุตสาหกรรมให้รวดเร็วขึ้นได้

ในด้านการพัฒนาระบบอัจฉริยะ CHERY อาศัยข้อมูลการตรวจสอบความถูกต้องทั่วโลก 24,000 ล้านกิโลเมตร และแพลตฟอร์มการทดสอบจำลองแบบ “จักรวาลคู่ขนานดิจิทัล” (Digital Parallel Universe) ที่สามารถเรียนรู้แบบจำลองได้ 20 ล้านกิโลเมตร และการตรวจสอบความถูกต้องของแบบจำลอง 1 ล้านกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งช่วยเสริมสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการประยุกต์ใช้โซลูชันอัจฉริยะอย่างครอบคลุม ทั้งยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของจีนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของยานยนต์และระบบการจัดการอัปเดตซอฟต์แวร์ตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป พร้อมทั้งได้รับใบรับรองการสื่อสารปลอดภัยเชิงควอนตัมสำหรับยานยนต์ฉบับแรกของจีน และยังได้รับการรับรองความปลอดภัยเชิงฟังก์ชันระดับสูงสุดของโลกในระดับ ASIL D ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในต่างประเทศได้ร่วมกันสะสมระยะทางในการขับขี่ผ่านระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะมากกว่า 4,500 ล้านกิโลเมตร

ดีเอ็นเอแห่งความยั่งยืน: ความรับผิดชอบที่เหนือกว่าเรื่องธุรกิจ

ในฐานะพลเมืองของโลก CHERY มุ่งมั่นที่จะมีส่วนช่วยสร้างคุณค่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับสังคมโลกอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางวิกฤติสภาพภูมิอากาศและข้อจำกัดด้านทรัพยากร จึงได้บูรณาการหลักการ ESG เข้ากับกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ของแบรนด์อย่างลึกซึ้ง โดยสร้างระบบสีเขียวแบบ “4-in-1” ที่ครอบคลุม “การนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์ การรีไซเคิลวัสดุ และนวัตกรรมเทคโนโลยี” ซึ่งครอบคลุมการจัดการรอยเท้าคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตของรถยนต์ พร้อมดำเนินกลยุทธ์ด้านพลังงานใหม่อย่างครอบคลุม เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่รถยนต์พลังงานใหม่ให้แพร่หลายไปทั่วโลก

CHERY ยังมีความมุ่งมั่นรับผิดชอบต่อสังคมทั่วโลกอย่างจริงจัง ตั้งแต่การบริจาคเงิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับองค์การยูนิเซฟเพื่อการศึกษาของเยาวชนระดับนานาชาติ ไปจนถึงการลงทุน 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) โดยเปิดตัวโครงการความร่วมมือระดับโลก “Cherish Nature” CHERY × IUCN ร่วมกันส่งเสริมการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่เปราะบางของโลก ด้วยความใส่ใจ ความหวังผ่านความรับผิดชอบ และความห่วงใยอย่างต่อเนื่อง แนวทางปฏิบัติตามหลัก ESG อย่างต่อเนื่องนี้เองที่ส่งผลให้ CHERY ถูกรวมอยู่ในรายชื่อ “China ESG Impact List” ของนิตยสาร Fortune เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกันในปี 2567 และ 2568 หลังจากนี้ ในวันที่ 21 สิงหาคม CHERY ยังจะร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟอีกครั้ง เพื่อจัดงานการกุศลที่มุ่งเน้นเรื่องการศึกษาของคนแอฟริกันในแอฟริกาใต้ด้วย

เมื่อมาถึงจุดตั้งต้นใหม่หลังการส่งออกรถยนต์มากกว่า 5 ล้านคัน ความสำเร็จในต่างประเทศของ CHERY เป็นมากกว่าเรื่องราวขององค์กร เพราะรถยนต์จำนวน 5 ล้านคันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะ ทว่ายังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการมีส่วนร่วมในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกของ CHERY ภายใต้แนวคิด “ผลิตในประเทศจีนด้วยความชาญฉลาด” (Made in China with Intelligence) และเป็นเครื่องยืนยันถึงความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่จากการผลิตสินค้าสู่การมีส่วนร่วมภายใต้ระบบนิเวศระดับโลก ซึ่งเมื่อก้าวสู่หมุดหมายของการส่งออกรถยนต์ถึง 5 ล้านคัน จึงเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าโลกาภิวัตน์ที่แท้จริงย่อมหมายถึงการเป็นผู้สร้างสรรค์คุณค่าให้กับทุกที่ ๆ CHERY เข้าไปทำธุรกิจ และนี่อาจเป็นเคล็ดลับสำคัญสำหรับเส้นทางการผลิตรถยนต์ 5 ล้านคันต่อไปของ CHERY ที่มิใช่เพียงการเดินตามความสำเร็จเดิมเท่านั้น แต่ยังเป็นการร่วมกันกำหนดกระบวนทัศน์ใหม่สำหรับการเดินทางของโลกในอนาคตข้างหน้า

ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

  • Website: chery-thailand.com
  • Facebook: cherymotorthailand
  • Instagram: @cheryauto

ที่มา: Public Hit