กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียในสถานพยาบาลด้วยสองนวัตกรรมล้ำสมัย ได้แก่ ระบบ Real Time Online Wastewater Monitoring System (WMS) สำหรับติดตามคุณภาพน้ำเสียแบบเรียลไทม์ และ เทคโนโลยี Zero Liquid Discharge (ZLD) สำหรับบำบัดและรีไซเคิลน้ำเสียให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน พร้อมยกระดับมาตรฐานการจัดการน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

นายแพทย์กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยว่า การจัดการน้ำเสียจากสถานพยาบาลเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีสารปนเปื้อนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนได้ กรม สบส. โดย กองแบบแผน จึงได้พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบ Real Time Online Wastewater Monitoring System (WMS) สามารถติดตามและประเมินสถานะของระบบบำบัดน้ำเสียแบบเรียลไทม์ ผ่านเซนเซอร์ที่ตรวจวัดค่าพารามิเตอร์สำคัญต่างๆ เช่น อัตราการไหล, ออกซิเจนละลายน้ำ (DO), ค่าความสกปรกในน้ำ (BOD) และค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ช่วยให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และรวดเร็วยิ่งขึ้น ป้องกันการปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อม และนำนวัตกรรม Zero Liquid Discharge (ZLD) มาใช้บำบัดและรีไซเคิลน้ำเสียในสถานพยาบาล โดยเฉพาะการบำบัดน้ำเสียจากหน่วยไตเทียม ซึ่งมีปริมาณความเข้มข้นของสารที่ละลายในน้ำสูง โดยการนำระบบ ZLD มาใช้ จะช่วยทำให้น้ำเสียถูกบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่ภายในโรงพยาบาล ลดค่าใช้จ่ายในการใช้น้ำประปา ลดการสูญเสียทรัพยากร ป้องกันการปล่อยสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อแหล่งน้ำในท้องถิ่นและช่วยรักษาระบบนิเวศได้อย่างยั่งยืน
“การพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกรม สบส. ในการส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมในสถานพยาบาลอย่างยั่งยืน เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ควบคู่ไปกับการช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานให้สถานพยาบาล” นายแพทย์กรกฤช รองอธิบดีกรม สบส. กล่าว
นายอับดุลกอเดส อมรึก ผู้อำนวยการกองแบบแผน กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 66 – 68 กองแบบแผนได้มีการออกแบบระบบบำบัดน้ำเสีย จำนวน 10 แบบ และได้ออกแบบให้กับโรงพยาบาล จำนวน 58 แห่ง สามารถประหยัดงบประมาณ ได้ถึง 60 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 69 นี้ ได้ทำการสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลระบบบำบัดน้ำเสียของสถานพยาบาลทั่วประเทศ พร้อมจัดลำดับความเร่งด่วน และวางแผนพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียให้กับกลุ่มที่มีความเร่งด่วน 91 แห่ง แบ่งเป็น ดำเนินการก่อสร้าง/ปรับปรุงแล้ว 9 แห่ง อยู่ระหว่างรอจัดสรรงบประมาณ 47 แห่ง และอยู่ระหว่างการสำรวจอีก 35 แห่ง นอกจากนี้ ยังได้จัดอบรมหลักสูตร “ผู้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย” ให้กับบุคลากรในสถานพยาบาล เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการดูแลและควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียให้เป็นไปตามมาตรฐานหากหน่วยงานหรือสถานพยาบาลใดสนใจเข้าร่วมโครงการอบรม สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ เว็บไซต์ กองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ https://dcd.hss.moph.go.th
