ทำไมคิ้วสแตนเลสจึงตอบโจทย์สำหรับงานตกแต่งภายในโรงแรม ?

เมื่อพูดถึงการออกแบบโรงแรม โจทย์ที่ท้าทายที่สุดสำหรับนักออกแบบตกแต่งภายในและสถาปนิก ไม่ใช่แค่การสร้างความประทับใจแรกเห็นให้แขกผู้มาเยือนต้องร้องว้าวเพียงอย่างเดียว แต่คือการรักษาสภาพความสวยงามนั้นให้คงทนถาวร ท่ามกลางการใช้งานที่หนักหน่วงตลอด 24 ชั่วโมง การเลือกใช้วัสดุจึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ และหนึ่งใน “อาวุธลับ” ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความงามได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็คือ “คิ้วสแตนเลส” 

1. ยกระดับความหรูหราด้วยเส้นสาย

ในงาน Interior Architecture การใช้เส้นสายที่คมชัดคือกุญแจสำคัญที่ทำให้งานดูเนี้ยบและทันสมัย คิ้วสแตนเลสไม่ได้ทำหน้าที่แค่ปิดรอยต่อ แต่ทำหน้าที่เป็นเส้นนำสายตาและสร้างลูกเล่นบนระนาบที่เรียบง่าย

ด้วยเทคโนโลยีการทำสีแบบ PVD Coating ทำให้ปัจจุบันเรามีตัวเลือกมากกว่าแค่สีเงินเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น Rose Gold, Gold, Black Chrome หรือ Champagne Gold ในผิวสัมผัสแบบเงา (Mirror) หรือแบบขนแมว (Hairline) การฝังเส้นสแตนเลสรูปตัว T หรือตัว U ลงบนผนังหินอ่อนหรือผนังกรุไม้ จะช่วยเบรกความหนาทึบของวัสดุ สร้างจังหวะ (Rhythm) ใหม่ให้งานออกแบบดูมีมิติและหรูหราขึ้นทันตาเห็น โดยเฉพาะในส่วนของ Lobby หรือโถงทางเดิน

2. เกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง

โรงแรมเป็นพื้นที่ที่มี Traffic สูงมาก ปัญหาคลาสสิกที่เลี่ยงไม่ได้คือ การกระแทก ไม่ว่าจะเป็นจากรถเข็นกระเป๋า, รถเข็นแม่บ้าน หรือกระเป๋าเดินทางของแขก จุดที่เปราะบางที่สุดคือ “มุมเสา” และ “ขอบผนัง”

หากเป็นผนังปูนทาสีหรือวอลเปเปอร์ ขอบมุมเหล่านี้จะถลอกและฉีกขาดภายในเวลาไม่กี่เดือน การติดตั้งคิ้วสแตนเลสเข้ามุมหรือคิ้วตัวฉาก (L-Shape) จะช่วยรับแรงกระแทกเหล่านี้แทนวัสดุหลัก ด้วยคุณสมบัติของสแตนเลสเกรด 304 ที่มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อรอยขีดข่วน และไม่บิดงอง่าย จึงช่วยลดงบประมาณในการซ่อมแซมระยะยาวของโรงแรมได้อย่างมหาศาล

3. การจบงานรอยต่อที่สมบูรณ์แบบ

ในงานออกแบบพื้นโรงแรมมักมีการเปลี่ยนวัสดุเพื่อแบ่งโซนพื้นที่ เช่น การเปลี่ยนจากพื้นหินในโถงทางเดิน เข้าสู่พื้นพรมในห้องพัก หรือรอยต่อระหว่างกระเบื้องห้องน้ำกับพื้นไม้ลามิเนต การชนวัสดุสองชนิดที่มีความหนาต่างกัน มักก่อให้เกิดปัญหาเรื่องระดับที่ไม่เท่ากันและความไม่เรียบร้อย

คิ้วสแตนเลสสำหรับจบงานพื้นเข้ามาแก้ปัญหานี้โดยตรง ช่วยปรับระดับให้ลาดเอียงอย่างนุ่มนวลและปิดช่องว่างระหว่างวัสดุเพื่อรองรับการขยายตัวของวัสดุเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ทำให้รอยต่อดูเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์มากกว่าเป็นจุดตำหนิ

4. สุขอนามัยและการดูแลรักษา 

ในยุคที่ความสะอาดคือความปลอดภัย สแตนเลสถือเป็นวัสดุที่มีรูพรุนต่ำมาก (Non-porous material) ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียสะสมได้ยาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ในส่วนเคาน์เตอร์ร้านอาหาร ไลน์บุฟเฟต์ หรือในห้องน้ำ ซึ่งต้องการการทำความสะอาดที่ง่ายและรวดเร็ว

นอกจากนี้ สแตนเลสเกรดคุณภาพยังทนทานต่อความชื้น ไม่เป็นสนิม และทนต่อสารเคมีทำความสะอาดที่แม่บ้านโรงแรมใช้เป็นประจำ ทำให้มั่นใจได้ว่าความเงางามจะยังคงอยู่คู่กับโรงแรมไปอีกนาน

การเลือกใช้คิ้วสแตนเลสในงานโรงแรม จึงไม่ใช่เพียงแค่การเลือกวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงามฉาบฉวย แต่เป็นการมองขาดในเรื่องของการบริหารจัดการอาคาร เป็นการลงทุนในรายละเอียดเล็กๆ ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ ความคงทน และความคุ้มค่าในระยะยาว เปลี่ยนงานช่างให้กลายเป็นงานศิลปะ และเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็นประสบการณ์ระดับพรีเมียมได้อย่างแท้จริง

ที่มา: นารา โอเรียนทอล