กทม.เข้มมาตรการรับมือค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง เปิดคลินิกมลพิษ–สายด่วนสุขภาพ 1646 ดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยง

นายเพชรพงษ์ กำจรกิจการ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวถึงสถานการณ์และแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาทางด้านสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีแนวโน้มเกินเกณฑ์มาตรฐานว่า สถานการณ์ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM2.5 ในปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา ในช่วงเดือน พ.ย. 67 – มี.ค. 68 มีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 2,762 ราย เป็นเพศชาย 1,061 ราย และเพศหญิง 1,611 ราย ทั้งยังพบกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM2.5 ตามช่วงอายุ ได้แก่ เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 10 ปี 305 ราย และผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 800 ราย จากสถานการณ์ผู้ป่วยได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานพบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน โดยในช่วง พ.ย. 66 – มี.ค. 67 มีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 1,491 ราย และในช่วงเดือน พ.ย. 65 – มี.ค. 66 มีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 1,098 ราย ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาในเชิงพื้นที่พบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองรายเขต 5 อันดับแรก ได้แก่ เขตหนองแขม 275 ราย เขตคลองสามวา 267 ราย เขตหนองจอก 254 ราย เขตลาดกระบัง 202 ราย และเขตบางนา 93 ราย โดย สนพ. ยังคงติดตามสถานการณ์การได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ สนพ. ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ โดยจัดตั้งคลินิกมลพิษตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 และปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ โรงพยาบาลเวชการุณรัศมิ์ และโรงพยาบาลนคราภิบาล นอกจากนี้ ได้บูรณาการร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) ติดตามค่าฝุ่นละออง PM2.5 และประชาสัมพันธ์ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ให้ประชาชนได้ทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ ของโรงพยาบาล ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ผ่านประกาศของโรงพยาบาล ช่องทางออนไลน์ของโรงพยาบาล เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก และเมื่อค่าฝุ่นละออง PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐานจะเปิดให้บริการคลินิกมลพิษทางอากาศ เพื่อรองรับผลกระทบทางด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ

สำหรับด้านการบริการประชาชน สนพ. ได้เปิดให้บริการสายสุขภาพด่วน 1646 โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ หรือสาธารณสุขผู้เชี่ยวชาญประจำการให้คำปรึกษาและให้ความรู้ด้านผลกระทบต่อสุขภาพเฉพาะบุคคล รวมถึงการดูแลตนเองขณะที่มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งการให้คำแนะนำการใช้ยาและการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง การบันทึกข้อมูลการให้คำปรึกษา เพื่อใช้ประเมินความต้องการและแนวโน้มปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในช่องทางต่าง ๆ ของโรงพยาบาล การสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้รับบริการและประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ การติดตั้งเครื่องกรองอากาศในพื้นที่ให้บริการแก่ประชาชน และมีมาตรการอื่น ๆ ในการสำรวจและลดแหล่งกำเนิดฝุ่นในโรงพยาบาลตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5

ขณะเดียวกัน สนพ. ได้จัดทำห้องปลอดฝุ่นในโรงพยาบาลตามมาตรฐานในศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่คู่นมแม่ในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ทั้ง8 แห่ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสฝุ่นละออง PM2.5รวมทั้งติดตั้งเครื่องกรองอากาศในพื้นที่ให้บริการแก่ประชาชนและติดตั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality Monitor) ที่ได้รับการสอบเทียบมาตรฐาน เพื่อติดตามคุณภาพอากาศภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบำรุงรักษาเครื่องกรองอากาศตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันได้ดำเนินการสำรวจและลดแหล่งกำเนิดฝุ่นทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยกำชับมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้าง หรือปรับปรุงอาคารของโรงพยาบาลสังกัด สนพ. อย่างเคร่งครัด เช่น การปิดคลุมพื้นที่ การพรมน้ำ การล้างล้อรถขนส่ง และการควบคุมฝุ่นที่อาจเกิดจากกิจกรรมอื่น ๆ ภายในโรงพยาบาล เช่น การซ่อมบำรุง การทำความสะอาด

ทั้งนี้ สนพ. ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมสุขภาพ การสร้างเสริมองค์ความรู้ด้านผลกระทบจากฝุ่นละอองต่อสุขภาพ การป้องกัน การเฝ้าระวังโรค ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านบริการและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและปลอดภัย

ที่มา: กรุงเทพมหานคร