ดีป้า หารือเครือข่ายพันธมิตรอุตสาหกรรมดิจิทัล รวบรวมความคิดเห็นเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมหารือนัดพิเศษกับเครือข่ายพันธมิตรในแวดวงอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น สมาคมไทยไอโอที สมาคมการค้าผู้ประกอบการเทคโนโลยี สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย สมาคมดิจิทัลคอนคอนเทนต์ไทย สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย สมาคมระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด สมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย เพื่อรวบรวมความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ก่อนนำมาปรับใช้เพื่อเป็นแนวทางการทำงานของ ดีป้า ในการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมดิจิทัล อีกทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศต่อไป โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียง ณ อาคารสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สำนักงานใหญ่) ซอยลาดพร้าว 10 เขตจตุจักร 

ทั้งนี้ ผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้เสนอความคิดเห็นและมุมมองด้านการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น

  1. เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศดิจิทัลรองรับการเติบโต

ภาคอุตสาหกรรมเห็นพ้องว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องยกระดับตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานด้าน Cloud, Data Center รวมถึงมาตรฐาน IoT ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลด้านอื่น ๆ เพื่อรองรับการลงทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการดึงดูดงานสร้างสรรค์ เช่น ภาพยนตร์หรือดิจิทัลคอนเทนต์ให้อยู่ในประเทศแบบครบวงจร

  1. หนุนให้ผู้ประกอบการไทย “แข่งขันได้จริง” ในเวทีโลก

ที่ประชุมสะท้อนว่า ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะสาย AI, MarTech และดิจิทัลคอนเทนต์ ต้องการการสนับสนุนที่ช่วยสร้างความได้เปรียบ เช่น การลดข้อจำกัดด้านกฎหมาย การสนับสนุนให้เกิด IP ไทย การสร้างความเชื่อมโยงกับต่างประเทศ การเปิดพื้นที่ทดสอบ (POC) โดยมีรัฐช่วยเป็นผู้รับรองความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกัน SMEs ต้องเผชิญแรงกดดันให้ปรับตัวสู่เทคโนโลยีใหม่อย่างรวดเร็ว แต่ยังขาดความพร้อม ทำให้เกิดช่องว่างระหว่าง Demand-Supply ที่ต้องเร่งแก้ไข

  1. สร้างบุคลากรดิจิทัลอย่างเป็นระบบ แก้ปัญหาแรงงาน–ทักษะไม่ตรงตลาด

ภาคอุตสาหกรรมระบุว่า ไทยยังมีจำนวนผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี เช่น AI ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง อีกทั้งบัณฑิตจบใหม่จำนวนมากยังไม่มีงานทำ เพราะทักษะไม่ตรงตามความต้องการของตลาด จึงเสนอให้มีการพัฒนาทักษะเชิงลึก การสร้างแรงงานฝีมือ และการกระจายโอกาสให้เยาวชนจากต่างจังหวัดเข้าถึงอุตสาหกรรมได้มากขึ้น

  1. ส่งเสริมชุมชนดิจิทัล (Digital Community) ให้เติบโตและเข้มแข็ง

ผู้ประกอบการและกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ต้องการพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยน และสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น Meet up เวิร์กชอป หรือกิจกรรมสร้างความร่วมมือ โดยเสนอให้ ดีป้า ทำให้พื้นที่ขององค์กรเป็น Digital Hub ที่เปิดกว้างให้ชุมชนดิจิทัลเข้ามาใช้ได้ เพื่อให้เกิดความร่วมมือใหม่ ๆ

  1. ปรับขั้นตอนรัฐให้ “เข้าถึงง่าย คล่องตัว และรองรับความเสี่ยง”

เสียงส่วนใหญ่สะท้อนว่า ภาครัฐยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก การยื่นข้อเสนอช้า และการพิจารณาเอกสารใช้เวลานาน ทำให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายเล็กเข้าถึงได้ยาก พร้อมกันนี้ ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐยอมรับความเสี่ยงในการล้มเหลวของนวัตกรรม ไม่ใช่มองว่าการสนับสนุนทุกโครงการต้องประสบความสำเร็จเสมอ เพราะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต้องมีพื้นที่สำหรับความผิดพลาดเพื่อเติบโต

  1. สร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ–เอกชนอย่างสมดุล

หลายภาคส่วนต้องการให้หน่วยงานรัฐทำงานร่วมกับสมาคมมากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ เช่น งานระดับนานาชาติ เพื่อให้สมาคมมีบทบาทตัดสินใจอย่างแท้จริงและสะท้อนความต้องการของอุตสาหกรรมได้ชัดเจน

  1. เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการไทย

ผู้ประกอบการจำนวนมากสะท้อนว่าปัญหา Credit Term ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ แม้กฎหมายกำหนด 45 วัน แต่หลายธุรกิจยังปฏิบัติไม่ได้จริง ส่งผลต่อสภาพคล่องของ SMEs จึงเสนอให้มีมาตรการช่วยเหลือ หรือแนวทางเพื่อให้ระบบการชำระเงินเป็นธรรมและสอดคล้องกับความเป็นจริงของอุตสาหกรรม

  1. ผลักดันอุตสาหกรรมเกมไทยให้เติบโตต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมเกมสะท้อนว่า ไทยยังมีศักยภาพสูง สามารถดึงงานและการลงทุนจากต่างชาติได้ หากมีการผลักดันเชิงระบบ โดยที่ประชุมมีการเสนอว่าไทยควรใช้ความสำเร็จของงาน gamescom x Thailand Game Show 2025 ที่จัดในไทยเป็นจุดเริ่มต้นในการดึงดูดนักลงทุน ครีเอเตอร์ และแรงงานต่างชาติให้เข้ามาทำงานในประเทศ นอกจากนี้ รัฐควรกระจายกิจกรรมและโอกาสไปยังภูมิภาค เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนในต่างจังหวัดเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมมากขึ้น พร้อมเปิดให้สมาคมและภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทตัดสินใจร่วมกับภาครัฐในการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ เพื่อให้การขับเคลื่อนสอดคล้องกับความต้องการจริงของอุตสาหกรรม อันสะท้อนความต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคอนเทนต์–เกมของภูมิภาคในอนาคต

“เสียงสะท้อนทั้งหมดชี้ชัดว่า หากประเทศไทยต้องการก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภาครัฐต้องมีบทบาทสำคัญในการปรับกฎเกณฑ์ให้ทันสมัย เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาคน ไปจนถึงการสนับสนุนความเสี่ยงของนวัตกรรมใหม่” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ที่มา: Triple Eight Ideas