สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย แนะ “ลอยกระทง ไม่หลงทาง” มุ่งสู่ประเพณีคาร์บอนต่ำ ชี้ภัยเงียบกระทงธรรมชาติ ย้ำ “ต้องปลอดเข็มหมุด 100%

เนื่องในเทศกาลลอยกระทงที่กำลังจะมาถึง สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์แหล่งน้ำ ได้ออกมาแนะแนวทาง “ลอยกระทง ไม่หลงทาง” เพื่อให้ประชาชนได้สืบสานประเพณีควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยชู 2 แนวทางสำคัญคือ การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติแท้ 100% และการมุ่งสู่ “ประเพณีคาร์บอนต่ำ” (Low Carbon)

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)  เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันแนวโน้มการใช้กระทงโฟมจะลดลงมาก และคนหันมาใช้วัสดุธรรมชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังมีภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในกระทงธรรมชาติที่วางจำหน่ายทั่วไปก็มี โดยในปีที่ผ่านTEI ได้ลงพื้นที่เก็บขยะกระทงที่ชายหาดบางแสนพบกว่า กระทงธรรมชาติ หลายใบมีสิ่งแปลกปลอมอันตรายซ่อนอยู่ข้างใน

“การเลือกกระทงที่ทำจากใบตอง/หยวกกล้วย ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และเมื่อหน่วยงานจัดเก็บขึ้นมา สามารถนำไปหมักทำปุ๋ย (สารบำรุงดิน) ได้ ไม่เปลืองพื้นที่ฝังกลบ แต่ขณะเดียวกันปีที่แล้ว (2567) ที่เราลงพื้นที่เทศบาลแสนสุขเก็บขยะกระทงเราพบทั้ง เข็มหมุด ตะปู หรือลวดเย็บกระดาษ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสัตว์น้ำที่อาจกินเข้าไป บางกระทงเราพบเข็มมากถึง 40-50 เล่ม นี่คือประเด็นที่ต้องรณรงค์เร่งด่วน จึงอยากแนะนำให้ประชาชนและผู้ค้า หันมาใช้วัสดุธรรมชาติแท้ๆ ในการยึดติด เช่น ไม้กลัด หรือ การเย็บด้วยด้าย แทนการใช้เข็มหมุด งดการใส่ ของแปลกปลอม”

นอกจากการเลือกกระทงที่ปลอดภัยต่อสัตว์น้ำแล้ว TEI ยังเน้นย้ำถึงแนวคิด ลอยกระทงคาร์บอนต่ำคือ การเลือกวัสดุที่จะมาใช้ทำกระทบสนับสนุนให้ใช้วัสดุที่หาได้ใกล้บ้านหรือในท้องถิ่น เช่น ใช้ใบตองหรือดอกไม้ที่ปลูกเอง แทนที่จะซื้อดอกไม้หรือใบตองที่ขนส่งมาจากแหล่งไกลๆ เพราะทุกการขนส่งนั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้วัสดุใกล้ตัวจึงเป็นการช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ในเทศกาลได้จริง

นอกจากนี้ TEI ได้ฝากทิ้งท้าย ถึงแนวทางในการลอยกระทง ไม่หลงทาง ใส่ใจสิ่งแวดล้อม คือ

  • การใช้กระทงขนมปัง : แม้จะเป็นกระทงที่ได้รับความนิยมแต่ ไม่แนะนำ ให้ลอยในแหล่งน้ำปิด เช่น สระในสวนสาธารณะ หรือบึงที่ปลาไม่เพียงพอ เพราะขนมปังจะเน่าเสียอย่างรวดเร็ว กลายเป็นมลพิษทำให้น้ำเน่าได้
  • กระทงน้ำแข็ง : แม้จะละลายได้ แต่ไม่แนะนำให้ทำในปริมาณมาก เพราะกระบวนการผลิตน้ำแข็งใช้พลังงานสูง และการปล่อยน้ำแข็งจำนวนมากลงแหล่งน้ำอาจทำให้อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงกระทันหัน ส่งผลต่อระบบนิเวศได้
  • 1 กระทง 1 ครอบครัว : ครอบครัวเดียวกัน กลุ่มเพื่อนเดียวกัน ลอยกระทง 1 ใบเพื่อลดปริมาณขยะกระทง
  • ลดขนาดกระทง (ยิ่งเล็ก ยิ่งดี) : การเลือกกระทงที่มีขนาดเล็ก จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิต (เช่น ใบตอง หยวกกล้วย ดอกไม้) และช่วยลดปริมาณขยะโดยรวมหลังเทศกาล แต่อย่าลืมหาวัสดุในพื้นที่เพื่อลดการขนส่ง
  • ลอยกระทงออนไลน์ : ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีในการสืบสานประเพณี โดยไม่สร้างผลกระทบต่อแหล่งน้ำเลย

ดร.วิจารย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญที่สุดไม่แพ้การเลือกกระทง คือ การจัดการหลังค่ำคืนวันลอยกระทงหน่วยงานท้องถิ่นควรมีแผนการเก็บกวาดที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ทุ่นกั้นดักขยะกระทง และเร่งเก็บกระทงในคืนนั้นหรือเช้าวันรุ่งขึ้นทันที เพื่อนำขยะกระทงไปคัดแยกและกำจัดอย่างถูกต้อง ป้องกันไม่ให้ขยะเหล่านี้กลายเป็นมลพิษหรือไหลลงสู่แม่น้ำสายหลักและออกสู่ทะเลต่อไป

 

ที่มา: สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)