การประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2025 (Miss International Queen 2025) เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และยกระดับ Soft Power ไทยสู่สายตาชาวโลก โดย 23 สาวงามผู้เข้าประกวดจาก 23 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การต้อนรับสู่ดินแดนล้านนาอย่างอบอุ่นจากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกิจกรรมเก็บตัวและสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมไทยอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมี นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นายเก่ง ชัยวารินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานเชียงใหม่ นายกิตติคุณ คุ้มเกตุ ผู้แทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ นายจักรพงษ์ สิทธิหล่อ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ สำหรับทำกิจกรรมในช่วงระหว่างวันที่ 8 – 11 กันยายน 2568 ก่อนก้าวสู่เวทีการประกวดในรอบถัดไป

ตลอดระยะเวลา 3 วันของการเก็บตัว ณ โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ ผู้เข้าประกวดจะได้สัมผัสความงดงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของล้านนาอย่างแท้จริงผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ กิจกรรม “To The Nature’s Embrace” ที่เน้นประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และกิจกรรม “To The Art Of Lanna Legacy” เพื่อเรียนรู้งานหัตถศิลป์และวิถีชีวิตพื้นบ้านล้านนาหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่
ไฮไลต์สำคัญคือ การจัดงาน “Miss International Queen 2025 Gala Night: Culture & Couture in Chiang Mai” ในช่วงค่ำของวันที่ 10 กันยายน 2568 ณ โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท ซึ่งผู้เข้าประกวดจะปรากฏตัวใน The Lanna Queen’s Garden Fashion Show โดยสวมใส่ชุด “ล้านนาร่วมสมัย” ที่ออกแบบโดยอาจารย์หิรัญกฤษฏิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล ดีไซเนอร์ไทยชื่อดังผู้คว้ารางวัลระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการผสมผสานความงดงามของศิลปะล้านนาเข้ากับแฟชั่นระดับโลกได้อย่างลงตัว โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง YouTube: Miss International Queen
ผู้เข้าประกวดทั้ง 23 คนมาจากหลากหลายประเทศ ได้แก่ ไทย, บราซิล, ชิลี, จีน, โคลอมเบีย, คิวบา, เช็ครีพับบลิค, เอกวาดอร์, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, ลาว, มาเลเซีย, เม็กซิโก, เมียนมา, เปรู, นิการากัว, เปอร์โตริโก, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, ตุรกี, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม, และเวเนซูเอลา
