การประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอาเซียน ครั้งที่ 3 ผลักดันความเป็นผู้นำแบตเตอรี่ของอาเซียน เร่งสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนเป้าหมายพลังงานสะอาดด้วยนวัตกรรมแบตเตอรี่

กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับการประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอาเซียน ครั้งที่ 3 (The 3rd Asean Battery Technology Conference, ABTC 2025) ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 340 คนจาก 20 ประเทศจากทั่วโลกครอบคลุมทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป โอเชียเนีย  และ เอเชีย ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในอาเซียนให้เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่อาเซียน (ASEAN Battery Safety Network: ABSN) ที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (Thailand Energy Storage Technology Association, TESTA) ร่วมกับอีก 5 องค์กรชั้นนำด้านแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน ได้แก่ Singapore Battery Consortium (SBC) ประเทศสิงคโปร์ NanoMalaysia ประเทศมาเลเซีย Electric Vehicle Association of Philippines (eVAP) ประเทศฟิลิปปินส์ National Battery Research Institute (NBRI) และ National Center for Sustainable Transport Technology (NCSTT) ประเทศอินโดนีเซียโดยจัดขึ้นที่โรงแรมทราย ลากูน่า จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 27 ถึง 29 สิงหาคม 2568 โดยมีนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  เป็นประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการ และนายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับ 

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหรรม กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานว่า “ประเทศไทยและเอเชียตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ และมีศักยภาพในการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการประกอบรถยนต์ภายในประเทศ แต่เรายังมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นการเติมเต็มห่วงโซ่อุปทานในการผลิตและกำหนดทิศทางเพื่อให้เอเชียเป็นผู้นำในด้านพลังงานสะอาด ด้วยการเปิดโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในประเทศ การออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการจัดการและการรีไซเคิลวัสดุ รวมถึงการสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค ล้วนเป็นหมุดหมายสำคัญที่เปลี่ยนแรงกดดันทางการค้าให้เป็นพลังและโอกาสในการสร้างอำนาจต่อรอง ประเทศไทยภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอาเซียนในการผลักดัน 3 หลักการสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้กับอุตสาหกรรม ได้แก่ ความโปร่งใส (Transparency) นวัตกรรม (Innovation) และการหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (Circularity) ” 

ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล นายกสมาคม TESTA  กล่าวว่า “งานประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่อาเซียนครั้งที่ 3 (ABTC 2025) ไม่ใช่แค่งานสัมมนา แต่เป็นงานประชุมวิชาการที่รวมรวบนักคิด ผู้นำในอุตสาหกรรม และผู้กำหนดนโยบาย ที่มาประชุมร่วมกันเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ สัมมนาในครั้งนี้จะมีผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการผลิตและการใช้งานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ทั้งในเชิงพาณิชย์และในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ขณะที่อาเซียนกำลังเผชิญกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของความต้องการพลังงานสะอาดและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า   การประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอาเซียน ครั้งที่ 3 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าและอนาคตของอุตสาหกรรม” 

ดร.ซิง ยาง เชียม (Sing Yang Chiam) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค SBC และตัวแทนเครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่อาเซียน (ASEAN Battery Safety Network: ABSN) กล่าวว่า “การจัดตั้งเครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่ของอาเซียนเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของภูมิภาคอาเซียน ในการกำหนดมาตรฐานและ แบ่งปันความรู้ความเข้าใจในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของแบตเตอรี่ รวมถึงการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้การอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในอาเซียนก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของภูมิภาคอาเซียนในการทำงานร่วมกับพันธมิตร และองค์กรมาตรฐานระดับโลก รวมถึงหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐานในห่วงโซ่คุณค่าของแบตเตอรี่” 

ดร.เรซัล ไครี บิน อาห์เหม็ด ซีอีโอ นาโนมาเลเซีย กล่าวว่า “งานประชุมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความความมั่นใจและความมุ่งมั่นของกลุ่มประเทศในอาเซียน เราไม่เพียงแต่นำเทคโนโลยีขั้นสูงของแบตเตอรี่มาใช้ในอุตสหากรรม แต่เรายังสามารถพัฒนาและสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการรีไซเคิลวัสดุ เพื่อลดปริมาณของเสีย และสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทาน ด้วยการแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญและการดำเนินนโยบายร่วมกัน เรากำลังวางรากฐานบูรณาการการทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาค เพื่อให้สามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมในเวทีระดับโลกได้ และเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงาน ABTC ครั้งหน้า ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย” 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีไฮไลต์สำคัญอื่น ๆ  อาทิ การกล่าวแสดงความยินดีโดย ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติและผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และการปาฐกถาโดย ศาสตราจารย์ สแตนลีย์ วิตติงแฮม ผู้ได้รางวัลโนเบล สาขาเคมี ปี 2562 ในเรื่อง การพัฒนาวัสดุสำหรับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และความท้าทายและอนาคตของการผลิตในภูมิภาค 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนาที่น่าสนใจ จากวิทยากรในภูมิภาคอาเซียน ในหัวข้อเด่น ๆ เช่น การปลดล็อกศักยภาพแบตเตอรี่ของอาเซียน อนาคตของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเอไอในการผลิตแบตเตอรี่ ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออน เป็นต้น 

พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU)นอกจากนี้ ยังได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ที่สำคัญ 5 ฉบับ เพื่อเสริมสร้างความเป็นพันธมิตร และความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้แก่: 

  • Amphenol – ภาคีเครือข่ายความร่วมมือการพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่มาตรฐานแบบสับเปลี่ยนได้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (Swap2Gether): ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านการพัฒนาและใช้ชิ้นส่วนสำคัญสำหรับแบตเตอรี่มาตรฐานแบบสับเปลี่ยนได้ในยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ระหว่าง Amphenol Communications Solutions และ ภาคีเครือข่ายความร่วมมือการพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่มาตรฐานแบบสับเปลี่ยนได้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ประเทศไทย (Swap2Gether)
  • ความร่วมมือด้านการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (BESS) ระดับกริดในอาเซียน: ความร่วมมือระหว่าง Singamas Container Holdings Limited และ Zhejiang Narada Power Source เพื่อขยายความร่วมมือด้านการพัฒนาและการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (BESS) ระดับกริดทั่วอาเซียน โดยผสานรวมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และความเชี่ยวชาญด้านโซลูชันในการออกแบบและติดตั้งระบบ BESS เพื่อเพิ่มความเชื่อถือได้ ประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย และเสถียรภาพของกริด
  • พันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานยูโร-กริด – ความร่วมมือในการจัดตั้งแพลตฟอร์ม Sineuro: เป็นแพลตฟอร์มที่ผสานนวัตกรรมจากเอเชียและความเชี่ยวชาญจากยุโรปเพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชันการกักเก็บพลังงานอัจฉริยะบนแอปพลิเคชัน โดยมุ่งเป้าไปที่การขยายโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน และเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดของยุโรป พันธมิตรที่ร่วมมือในโครงการนี้ ประกอบด้วยNextGEN Energy, Sineng Electric, Green Tenaga และ Half Bridge Automation
  • ข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง Hytzer Energy และ INV Corporation: ความร่วมมือระหว่าง Hytzer Energy และ INV Corporation เพื่อร่วมกันพัฒนาและนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตต (solid-state) ออกสู่เชิงพาณิชย์ โดยทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและทรัพยากรร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมโซลูชันแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และมีความจุสูงขึ้น ซึ่งส่งเสริมนโยบายการเปลี่ยนผ่านพลังงานในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
  • NBRI และ NMB – เสริมสร้างนวัตกรรมแบตเตอรี่ระดับภูมิภาค: ความร่วมมือระหว่าง NBRI และ NanoMalaysia เพื่อพัฒนาระบบนิเวศแบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม การทดสอบและการกำหนดมาตรฐาน รวมถึงการศึกษาและการฝึกอบรมภาคอุตสาหกรรม

ประกาศกลยุทธ์สำคัญ

  • เปิดตัวรายงานการศึกษาภูมิทัศน์และระบบนิเวศแบตเตอรี่ในอาเซียน:

รายงานการศึกษาเรื่อง การขับเคลื่อนทิศทางของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ (Navigating the Battery-Related Landscape in Southeast Asia and Beyond) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของ TESTA, SBC, NanoMalaysia, NBRI, NCSTT และ Commonwealth Scientific and Industrial Research and Organization (CSRIO) ประเทศออสเตรเลีย เป็นรายงานที่รวบรวมและนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบนิเวศของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงานที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วของภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการวิเคราะห์เชิงลึกทั้งในด้านอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า และการประยุกต์ใช้ระบบกักเก็บพลังงานในระดับภูมิภาค โดยขอบเขตการศึกษาครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย เพื่อนำเสนอทิศทาง แนวโน้ม และประเด็นเชิงกลยุทธ์ที่มีนัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในอนาคต โดยหัวข้อของรายงาน ประกอบด้วย 1) ห่วงโซ่คุณค่าและระบบนิเวศแบตเตอรี่2) สถานะปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตของตลาดแบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงาน  (BESS) 3) มาตรฐาน นโยบาย และการพัฒนากฎระเบียบสำหรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าและ BESS 4) การจัดการแบตเตอรี่หลังสิ้นอายุการใช้งาน และ 5) โครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภูมิภาคอาเซียน

  • การพัฒนามาตรฐานและความปลอดภัยของแบตเตอรี่ผ่านความร่วมมือระหว่าง ABSN และ ULSE 

เครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่อาเซียน (ASEAN Battery Safety Network: ABSN) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 ร่วมมือกับ UL Standards & Engagement (ULSE) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความปลอดภัยของแบตเตอรี่ในภูมิภาคอาเซียน ULSE ในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง และยั่งยืน จะนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านมาตรฐานและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกองค์กร มาสนับสนุน ABSN ในการพัฒนากรอบความปลอดภัยและมาตรฐานการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับภูมิภาค ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญต่อการขับเคลื่อนการใช้งานแบตเตอรี่อย่างปลอดภัย และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในอาเซียน 

  • ความร่วมมือระหว่าง Montavista กับ A*BTF และ ULSE

ความร่วมระหว่างบริษัท Montavista กับ A*STAR Battery Test Facility (A*BTF) และ UL Standards & Engagement (ULSE) มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนามาตรฐานและการทดสอบสารเคมีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ (Li-metal) เพื่อการใช้งานอย่างปลอดภัยทั้งในภูมิภาคและต่างประเทศ

งานประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอาเซียน ครั้งที่ 3 นี้ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรและสปอนเซอร์หลัก ผู้สนับสนุนงานเลี้ยงอาหารค่ำ ได้แก่ บริษัท Hioki E.E. Corporation ระดับ Platinum Sponsor ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) และ Amphenol Communication Solutions ระดับ Gold sponsor ได้แก่ บริษัท Green Tenaga จำกัด และ บริษัท หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Huawei Digital Power) ระดับ Silver Sponsor ได้แก่ บริษัท PEC Technology (Thailand) จำกัด /CD Technologies Inc./ บริษัท Trojan Battery, บริษัท Fuzhou Fuguang Electronics จำกัด, บริษัท SK tes จำกัด , UNIGRID Battery, บริษัท 24M Technologies (ประเทศไทย) จำกัด,  บริษัท INV คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท Xiamen Ampace Technology จำกัด, บริษัท AEyeMynd จำกัด และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ ผู้สนับสนุน ได้แก่ บริษัท  AVL SEA & Australia จำกัด, บริษัท นูออโว พลัส จำกัด, บริษัท ชไนเดอร์​ อิเล็กทริค (ประเทศไทย)จำกัด, บริษัท ไฟร์ไบรท์ (ประเทศไทย) จำกัด,  บริษัท AMW Tech จำกัด , บริษัท Montavista Energy Technologies Corporation, บริษัท Shenzhen Kejing Star Technology, บริษัท ออสก้าโฮลดิ้ง จำกัด,  บริษัท Hitachi Energy (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท Synvista Energy Holdings จำกัด, บริษัท อีเอ็ม มอเตอร์ จำกัด, บริษัท เนกซ์เทียร์ จำกัด, บริษัท Neware Technology จำกัด, บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผู้สนับสนุนด้านเทคโนโลยี AIได้แก่ บริษัท Siemens จำกัด  พันธมิตรด้านความปลอดภัยและมาตรฐาน ได้แก่ UL Standards & Engagement พันธมิตรด้านการประชาสัมพันธ์ ได้แก่ บริษัท Shanghai MeditMarket จำกัด และ China International Battery Industry Cooperation Summit นอกจากนี้ยังได้รับการร่วมมือจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT), ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) และ จังหวัดภูเก็ต

 

ที่มา: PRecious Communications