เกษตรฯ เผยแผนฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้ ด้านพืช เน้นฟื้นดิน–ฟื้นต้น–ป้องกันโรค หลังน้ำลด

จากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่งผลกระทบในหลายจังหวัด ได้แก่ สงขลา ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ตลอดจนเกิดความเสียหายในพื้นที่การเกษตรกระจายตัวทั้ง ข้าว พืชผัก พืชไร่ โดยเฉพาะไม้ผลและไม้ยืนต้น ซึ่งเป็นกลุ่มพืชเศรษฐกิจหลักของพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเตรียมแผนป้องกัน และฟื้นฟูหลังน้ำลด

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจากร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเตรียมแผนฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรหลังสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เพื่อรับมือและเข้าช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าวแล้ว โดยเน้นการฟื้นฟูสภาพดินและสร้างความแกร่งของพืชให้ทนทาน ฟื้นตัว และปรับตัวได้ โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วยเหลือเร่งด่วนและสำรวจ โดยให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย รวมทั้งตรวจสอบสอบทานกับการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป ระยะที่ 2 ฟื้นฟูดูแลรักษาพืช โดยเตรียมพร้อมแจกจ่ายชีวภัณฑ์ไตรโคเดอร์มาและชีวภัณฑ์ควบคุมโรคพืช บีเอส (บาซิลลัส ซับทิลิส) เพื่อฟื้นฟูโรครากเน่าโคนเน่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 ถึงกุมภาพันธ์ 2569 ครอบคลุมพื้นที่ประสบภัยประมาณ 200,000 ไร่ และสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวเพื่อลดรายจ่ายครัวเรือนและสร้างรายได้ระยะสั้น ระยะที่ 3 สร้างความยืดหยุ่นและเตรียมพร้อม โดยถอดบทเรียนการจัดการแปลงตามแนวทางการปรับตัวล้มแล้วลุกเร็ว  เพื่อสร้างความแกร่งของพืชให้ทนได้ ฟื้นตัว และปรับตัวได้ รวมถึงมาตรการฟื้นฟูอื่นๆ และปัจจัยการผลิตที่ต้องสนับสนุน

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้รวบรวมเมล็ดพันธุ์พืช ต้นพันธุ์พืช และไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ฟื้นฟูป้องกันโรคพืชที่มีสาเหตุจากเชื้อราสำหรับแจกจ่ายให้เกษตรกรฟื้นฟูพืชในแปลงปลูกที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนต้นพันธุ์พืชแก่พื้นที่ในแปลงปลูกที่ได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร รวมเมล็ดพันธุ์พืช จำนวน 81,800 ซอง ต้นพันธุ์พืช จำนวน 349,000 ต้น ไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ จำนวน 6,000 ก.ก. และหัวเชื้อไตรโคเดอร์มา 450 ขวด เพื่อเตรียมพร้อมสนับสนุนให้แก่เกษตรกรที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ในครั้งนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568)

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติตามขั้นตอนฟื้นฟูดูแลรักษาพืช ดังนี้ 1.สำรวจอาการพืช โดยบำรุงพืชที่เสียหายเล็กน้อย ใช้ไตรโคเดอร์มารักษาพืชใบเริ่มเหลืองหรือรากฝอยเริ่มเน่า และรื้อถอนพืชที่ยืนต้นตายเพื่อเตรียมดินใหม่ พร้อมขุดร่องระบายน้ำเปิดทางไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงปลูก 2.รักษาและฟื้นฟูพืช โดยบำบัดราก ห้ามใส่ปุ๋ยเคมีทางดิน ในช่วงเดือนแรกให้ใช้ไตรโคเดอร์มาผสมรำข้าวหว่านรอบทรงพุ่มเพื่อยับยั้งเชื้อรา พ่นปุ๋ยหรือฮอร์โมนพืชจางๆ ให้อาหารทางใบเพื่อประคองต้นพืชสร้างใบชุดใหม่ พรวนดินตื้นเพิ่มออกซิเจนและโรยปูนขาวบางกรณีเกิดกรดจัดจากน้ำขังเพื่อปรับปรุงดิน ตลอดจนปลูกพืชระยะสั้นอย่างพืชผักสวนครัวลงในภาชนะหรือพื้นที่ดอนเพื่อลดค่าครองชีพและสร้างเงินหมุนเวียนระหว่างรอไม้ผลฟื้นตัว 3.สร้างความยืดหยุ่นและเตรียมพร้อม โดยปรับโครงสร้างแปลงและระบบการผลิตให้ทนทานต่อภัยพิบัติในอนาคต แนะนำให้ปลูกพืชยกโคน-หนีน้ำ ให้รากพืชพ้นระดับน้ำท่วมขังเฉลี่ย ขุดร่องน้ำในแปลงปลูกเชื่อมต่อกันเพื่อระบายน้ำเร็วเมื่อท่วม และใช้กักเก็บน้ำแบบแก้มลิงในแปลงเมื่อถึงฤดูแล้ง จัดทำปฏิทินเพาะปลูกใหม่ด้วยการเลี่ยงช่วงเสี่ยงภัยหรือปลูกพืชทนน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ สะสมเสบียงคลังด้วยการร่วมกันผลิตไตรโคเดอร์มาและสารชีวภัณฑ์สำรองสำหรับจัดการโรคได้ทันทีเมื่อเกิดภัย

ที่มา: กรมส่งเสริมการเกษตร