การประชุมพันธมิตรแพนด้าโลก ประจำปี 2568 ที่เขตซวงหลิว นครเฉิงตู ผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ “สมบัติชาติของจีน”

สำนักข่าวซินหัว สาขาเสฉวน

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การประชุมพันธมิตรแพนด้าโลก ประจำปี 2568 (Global Panda Partners Conference 2025) โดยสำนักข่าวซินหัวสาขาเสฉวน ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำนักข่าวซินหัว สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งประเทศจีน ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยแพนด้ายักษ์แห่งประเทศจีน และเฉิงตู มีเดีย กรุ๊ป ได้จัดขึ้นที่เขตซวงหลิว นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ภายใต้แนวคิด “ผนึกกำลังเพื่อปกป้อง สร้างสรรค์ และแบ่งปัน” (ปกป้องถิ่นที่อยู่ของแพนด้า สร้างสรรค์โลกที่งดงาม และแบ่งปันโอกาสที่เปิดกว้าง) งานนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน ประกอบด้วยแขกผู้มีเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการจากกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและสำรวจแนวทางทางวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศและการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระดับโลก โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการอนุรักษ์แพนด้ายักษ์และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในระดับนานาชาติ

ซือ เสี่ยวหลิน ผู้ว่าการมณฑลเสฉวน กล่าวสุนทรพจน์ว่า แพนด้ายักษ์คือ “สมบัติชาติ” คือสัญลักษณ์แห่งการปกป้องระบบนิเวศ คือทูตแห่งสันติภาพและมิตรภาพ ปัจจุบัน ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ทำให้สถานะการถูกคุกคามของแพนด้ายักษ์ลดลงจาก “ใกล้สูญพันธุ์” (Endangered) สู่ระดับ “มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์” (Vulnerable) ขณะเดียวกัน มณฑลเสฉวน ในฐานะถิ่นกำเนิดของแพนด้ายักษ์ ก็ปรารถนาที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายในการปกป้องถิ่นที่อยู่ของแพนด้า สร้างสรรค์โลกที่งดงาม และแบ่งปันโอกาสที่เปิดกว้าง ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบใหม่ในการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนกระชับความร่วมมือด้านนิเวศวิทยา วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้ร่วมสัมผัสและแบ่งปันเสน่ห์ของความหลากหลายทางวัฒนธรรม ผ่านการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

หลี่ว์ เหยียนซง หัวหน้าบรรณาธิการของสำนักข่าวซินหัว กล่าวสุนทรพจน์ว่า ความสำเร็จด้านการคุ้มครองแพนด้ายักษ์ของจีนในยุคใหม่ ถือเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจีนในการสร้างอารยธรรมเชิงนิเวศอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกับเน้นย้ำว่า จีนเดินหน้าพัฒนาประเทศอย่างมีอารยะ ผ่านการสร้างสมดุลระหว่างการผลิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญรุ่งเรืองของสังคม และระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ สำนักข่าวซินหัวยินดีร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อถ่ายทอดแนวคิดอารยธรรมเชิงนิเวศของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมทั้งเผยแพร่แนวทางและความสำเร็จของจีนด้านการสร้างอารยธรรมเชิงนิเวศให้แพร่หลายสู่ทั่วโลก ตลอดจนสนับสนุนความคิดเห็นสาธารณะที่เอื้อต่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

หลิว กั๋วหง ผู้อำนวยการสำนักบริหารป่าไม้และทุ่งหญ้าแห่งชาติจีน กล่าวว่า ความพยายามด้านการอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ของจีนก่อให้เกิดผลสำเร็จที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติแพนด้ายักษ์ รวมทั้งการบัญญัติกฎหมายอุทยานแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูและปรับปรุงถิ่นที่อยู่ของแพนด้ายักษ์อย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม ปัจจุบัน แพนด้ายักษ์ที่อยู่ในความดูแลของมนุษย์มีจำนวนทั้งสิ้น 808 ตัว ซึ่งถือว่ามีความยั่งยืนเพียงพอที่จะสามารถอยู่รอดและสืบพันธุ์ได้ในระยะยาว

เอราสตัส มเวนชา อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการสหภาพแอฟริกา แสดงความปรารถนาที่จะเห็น “รอยยิ้มของแพนด้ายักษ์” กลายเป็นภาษาที่งดงามที่สุดในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกเข้าด้วยกัน ในโอกาสนี้ ผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติต่างเห็นตรงกันว่า การประชุมพันธมิตรแพนด้าโลกเป็นเวทีวิชาการระดับสากลที่เปิดกว้าง เหมาะแก่การเจรจาและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อส่งเสริมฉันทามติและการวางแผนร่วมกันในการสร้างอารยธรรมเชิงนิเวศ งานนี้ยังสนับสนุนการอนุรักษ์ระบบนิเวศและการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระดับโลก พร้อมทั้งขยายโอกาสในการแลกเปลี่ยนและร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

การประชุมพันธมิตรแพนด้าโลก ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน ประกอบด้วยการประชุมหลัก 1 รายการ การประชุมย่อย 8 รายการ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง 10 รายการ ครอบคลุมหัวข้อสำคัญต่าง ๆ อาทิ อารยธรรมเชิงนิเวศ วัฒนธรรมแพนด้ายักษ์ รวมถึงการท่องเที่ยวทั้งในประเทศจีนและต่างประเทศ

เขตซวงหลิว นครเฉิงตู ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมครั้งนี้ และเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูซวงหลิว มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงอุตสาหกรรมล้ำสมัยที่เฟื่องฟู เช่น อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ เป็นต้น อีกทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “เขตที่มีความสุขที่สุดของจีน” ติดต่อกัน 5 ปี และยังเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะ “ศูนย์กลางการบินอัจฉริยะและเมืองแห่งสวนสวย” อีกด้วย

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว สาขาเสฉวน

ที่มา: ซินหัว-เอเชียเน็ท/ดาต้าเซ็ต