การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยนายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการ กปภ. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ลงนาม MOUโครงการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการระบบรับเรื่องร้องเรียนและการให้บริการอื่น ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชน ณ กปภ. สำนักงานใหญ่ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568

นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า กปภ. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สวทช.ในโครงการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการระบบรับเรื่องร้องเรียนและการให้บริการอื่น ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่สำคัญ เพื่อพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนและมาตรฐานการบริหารจัดการข้อร้องเรียนให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โปร่งใสและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการประยุกต์ใช้ระบบบริหารจัดการปัญหาและข้อร้องเรียน (Traffy Fondue) และเทคโนโลยีที่เหมาะสมของ สวทช. มาสนับสนุนการดำเนินงานของ กปภ. รวมทั้งจะแลกเปลี่ยนและพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกันเพื่อใช้ทรัพยากรทางเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการต่อยอดงานวิจัยด้านนวัตกรรมน้ำประปาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนเพื่อเพิ่มศักยภาพและลดต้นทุนในการผลิตน้ำประปา ควบคู่ไปกับการยกระดับการบริหารจัดการและการให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้บริการรับแจ้งปัญหาประปาผ่านระบบ Traffy Fondue ประชาชนสามารถใช้บริการง่าย ๆ เพียง 6 ขั้นตอนได้แก่ 1. เพิ่มเพื่อนบน Line OA ที่ @TraffyFondue 2. เลือกเมนูแจ้งเรื่องใหม่ 3. แชร์พิกัดตำแหน่งพร้อมอธิบายรายละเอียดปัญหาประปา 4. ถ่ายภาพประกอบ 5. เลือก กปภ.สาขา ที่ดูแลรับผิดชอบ ข้อมูลจะถูกส่งถึงสาขาที่รับผิดชอบทันที และ 6. สามารถติดตามสถานการณ์แก้ไขได้ตลอดเวลา ส่งผลให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการ สามารถติดต่อได้ที่ PWA Contact Center 1662ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. พร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนภารกิจของ กปภ. เพื่อการยกระดับการบริหารจัดการปัญหาและข้อร้องเรียนสู่ความเป็นมาตรฐานสากล ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมกันพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมด้านกิจการประปาซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและลดต้นทุนในการผลิตน้ำประปา แต่ยังรวมถึงการเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตหรือภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ปัญหาข้อร้องเรียนต่าง ๆ จะได้รับการตอบสนองและแก้ไขอย่างทันท่วงที ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจต่อการบริการของภาครัฐในที่สุด
