แอร์นิวกินี (Air Niugini) ได้เลือกใช้บริการวัสดุและบริการซ่อมบำรุงอากาศยานโดยแอร์บัส (Airbus Flight Hour Services: FHS) เพื่อสนับสนุนฝูงบินเอ220 (A220) จำนวน 11 ลำใหม่ โดยสัญญาระยะยาวในรูปแบบการบำรุงรักษาตามชั่วโมงการใช้งานจริงของเครื่องบิน (power-by-the-hour) ครอบคลุมบริการอะไหล่แบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดเก็บชิ้นส่วน ณ จุดปฏิบัติการ (on-site stock) การเข้าถึงคลังอะไหล่ส่วนกลาง (pool access) ไปจนถึงบริการซ่อมบำรุง (repair services)

พิธีลงนามสัญญาจัดขึ้นที่กรุงพอร์ตมอร์สบี โดยมี นายอานันท์ สแตนลีย์ (Anand Stanley) ประธานแอร์บัสประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และ กัปตันซามิอู เทาฟา (Captain Samiu Taufa) เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Air Niugini ร่วมลงนามในโอกาสรับมอบเครื่องบิน A220 ลำแรกที่ส่งตรงจากสายการประกอบหลักของแอร์บัสที่เมืองมิราเบล ประเทศแคนาดา
กัปตันซามิอู เทาฟา รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการแอร์นิวกินี กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงนามในข้อตกลงกับแอร์บัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมอย่างครบวงจรสำหรับฝูงบิน A220 ใหม่ การมาถึงของ A220 ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรา และยังเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับประเทศปาปัวนิวกินี เราจะร่วมมือกับแอร์บัสและพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อไม่เพียงแต่ตอบสนอง แต่ยังมุ่งมั่นเกินความคาดหวังของลูกค้าและประชาชน ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม”
นายอานันท์ สแตนลีย์ ประธานแอร์บัสเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Air Niugini เข้าสู่ครอบครัวบริการแบบ Flight Hour Services: FHS ข้อตกลงนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบโซลูชันการบำรุงรักษาระดับโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสนับสนุนการปฏิบัติการฝูงบินใหม่ให้ราบรื่นที่สุด เราหวังว่าจะได้ร่วมสนับสนุนแอร์นิวกินีในการนำศักยภาพเต็มรูปแบบของเครื่องบิน A220 สู่ผู้โดยสารและตลาดของพวกเขา”
บริการบำรุงรักษาตามชั่วโมงการใช้งาน (Airbus Flight Hour Services: FHS) ของแอร์บัส เป็นโมเดลการให้บริการที่ยืดหยุ่น ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความพร้อมใช้งานของเครื่องบิน สูงสุด พร้อมทั้งลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวม โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของแอร์บัส เครื่องมือบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ และเครือข่ายโลจิสติกส์ระดับโลก ทำให้สายการบินมั่นใจได้ว่าฝูงบินจะสามารถบรรลุประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม