นายอภิชาต แสนมาโนช ผู้อำนวยการเขตสายไหม กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีเจ้าของที่ดินในซอยวัชรพล ซอย 3 เขตสายไหม ร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกยึดที่ดินส่วนบุคคลสร้างเป็นทางเข้า-ออกของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และได้รับเอกสาร ซึ่งออกโดยสำนักงานเขตสายไหม ระบุถนนบนที่ดินตนเป็นพื้นที่สาธารณะว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวพบว่า ปัจจุบันผู้จัดการมรดกเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวได้ยื่นคำพิพากษา ระหว่าง กทม. จำเลยที่ 1 การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำเลยที่ 2 บริษัท ชนชอบ จำกัด และจำเลยที่ 3 ต่อศาลแพ่ง ให้ชดใช้ค่าขาดประโยชน์ โดยสำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย ที่ดินซอยดังกล่าวเดิมเจ้าของที่ดิน (บิดาของผู้ร้อง) ได้ยื่นฟ้อง บริษัท ชนชอบ จำกัด เมื่อปี 2548 และศาลแพ่ง ได้มีคำพิพากษาให้ทางดังกล่าวเป็นทางสาธารณประโยชน์ และภายหลังจากมีคำพิพากษา ให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ สำนักงานเขตฯ ได้เข้าดำเนินการปรับปรุง เมื่อปี 2550 ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้เข้าสอบปากคำประชาชนที่พักอาศัยในซอยดังกล่าวที่ใช้เป็นทางเข้า-ออกพบว่า เป็นถนนสาธารณประโยชน์ใช้สัญจรมาเกิน 10 ปี โดยไม่มีการปิดกั้น ซึ่งปัจจุบันแปลงที่ดินดังกล่าว สำนักงานเขตฯ ได้ส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลแพ่งรัชดา
ทั้งนี้ กรณีการพิจารณาอนุญาตโครงการจัดสรร กทม. ได้ตรวจสอบพิจารณาการก่อสร้างอาคารให้เป็นไปกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองร่วมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2556 และพิจารณาดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 กำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นแจ้งคำเตือนไว้ในใบอนุญาต ที่ได้ออกให้ตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ว่า ผู้ใดรับใบอนุญาตตาม พ.ร.บ. นี้ ยังคงมีหน้าที่ต้องขออนุญาตเกี่ยวกับอาคารนั้นตามกฎหมายอื่น ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เป็นการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามกฎหมายแล้ว