นายนิกร แสงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคใต้ ปี 2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2568) ซึ่ง สศก. โดย สศท.8 สศท.9 และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 (สสก.5) ร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคใต้ สรุปตัวเลขเอกภาพปริมาณผลผลิตของไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกองในพื้นที่ 14 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ระนอง ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) คาดว่า ปีนี้ ผลผลิตรวมทั้งในฤดูและนอกฤดู จำนวน 674,030 ตัน (ในฤดู 586,861 ตัน นอกฤดู 87,169 ตัน) ลดลงจากปี 2567 ที่มีจำนวน 712,406 ตัน หรือ ลดลงร้อยละ 5 โดย ทุเรียน มีจำนวน 559,295 ตัน ลดลงร้อยละ 5 มังคุด มีจำนวน 78,660 ตัน ลดลงร้อยละ 34 เงาะ มีจำนวน 32,212 ตัน ลดลงร้อยละ 20 และลองกอง มีจำนวน 3,863 ตัน ลดลงร้อยละ 83 ภาพรวมผลผลิตลดลง เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผลอฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทำให้ดอกผลอ่อนร่วงและแตกยอดอ่อน และสำหรับการทำทุเรียนนอกฤดู เนื่องจากฝนไม่ทิ้งช่วง ทำให้การทำดอกนอกฤดูดอกมากช้ากว่าที่คาดการณ์มีผลผลิตไปเก็บเกี่ยวได้ในต้นปี 2569

สำหรับผลผลิตในฤดูของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด จะออกสู่ตลาดเดือนมิถุนายน – ตุลาคม 2568 และผลผลิตนอกฤดูจะออกสู่ตลาด 2 ช่วง คือ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2568 และเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงผลผลิตในฤดูทยอยออกสู่ตลาด โดยผลผลิตตั้งแต่เดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2568 ออกสู่ตลาดไปแล้ว จำนวน 539,596 ตัน หรือร้อยละ 92 ของผลผลิตในฤดูทั้งหมด ซึ่ง ทุเรียน ออกสู่ตลาดไปแล้ว จำนวน 433,821 ตัน หรือร้อยละ 91 ของผลผลิตในฤดูทั้งหมด มังคุด ออกสู่ตลาดไปแล้ว จำนวน 73,198 ตัน หรือร้อยละ 99 ของผลผลิตในฤดูทั้งหมด เงาะ ออกสู่ตลาดไปแล้ว จำนวน 30,365 ตัน หรือร้อยละ 98 ของผลผลิตในฤดูทั้งหมด และลองกอง ออกสู่ตลาดไปแล้ว จำนวน 2,212 ตัน หรือร้อยละ 58 ของผลผลิตในฤดูทั้งหมด
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมนี้ ยังคงอยู่ในช่วงผลผลิตในฤดูออกสู่ตลาด โดยเฉพาะลองกอง ซึ่งจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดอีกจำนวน 1,630 ตัน หรือร้อยละ 42 สศท.8 จึงขอเชิญชวนผู้บริโภคร่วมสนับสนุนผลผลิตลองกองภาคใต้ ที่มีความโดดเด่นกว่าพื้นที่อื่นด้วยผลกลมสวย เปลือกบาง สีเหลืองอ่อน เนื้อใสฉ่ำน้ำ รสหวานหอม จึงเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วประเทศ และที่สำคัญยังเป็นการสร้างกำลังใจแก่พี่น้องเกษตรกรในการผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพต่อไปอย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน อาจส่งผลให้ปริมาณผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงลดลงทั้งในช่วงในฤดู และนอกฤดูที่จะมาถึงในอีก 2 เดือนข้างหน้า การวางแผนในเรื่องของการจัดหาแหล่งน้ำในอนาคตให้เพียงต่อความต้องการของผลไม้นับเป็นปัจจัยสำคัญต่อปริมาณและคุณภาพผลไม้ เพื่อรองรับความไม่แน่นอน ความแปรปรวนของสภาพอากาศ โดยเฉพาะทุเรียน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงและมีการวางแผนสำหรับการลงทุนในระยะยาวต่อไป ท่านที่สนใจข้อมูลไม้ผลภาคใต้สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.8 โทร. 0 7731 1641 หรืออีเมล [email protected]