SIAM 1928 อวดฝีมือน้ำหอมไทย ผนึก 4 นักปรุงน้ำหอมแถวหน้าเมืองไทย เปิดตัวคอลเล็กชัน ลิมิเต็ด “จตุมหาราชิกา” บุกตลาดโลก

SIAM 1928 ชูอัตลักษณ์นวัตกรรมน้ำหอมหนึ่งเดียวในโลก Collab 4 แบรนด์ดัง Iconic perfumer แถวหน้าของเมืองไทย เปิดตัวคอลเล็กชัน “จตุมหาราชิกา” (Catumaharajika) Luxury Niche ลิมิเต็ด เอดิชั่น บุกตลาดโลก

นายณัท เวชชศาสตร์  ผู้ก่อตั้งแบรนด์ SIAM1928 และ สุคนธกร หรือนักปรุงน้ำหอม (Perfumer)  ผู้สืบทอดสูตรน้ำอบปรุงเจ้าคุณ รุ่นที่ 4 เปิดเผยแผนธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 ภายใต้แบรนด์ SIAM1928 เปิดตัวน้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่ ชุด จตุมหาราชิกา (Catumaharajika  Collection)  Limited Edition ครั้งแรกของ แบรนด์ SIAM1928 โดย Collab กับ Iconic perfumer นักปรุงน้ำหอมแถวหน้าของเมืองไทย  4 แบรนด์ดัง Odyssey Skonx Perfumery Tada Perfumer และ Stranger Parfumerie ที่โด่งดังในกลุ่ม  Luxury Niche และได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมถ่ายทอดกลิ่นในแบบของตัวเอง คือ

  • กลิ่นจตุมหาราชิกาทิศใต้ “ท้าววิรูฬหก”

โดย คุณอนันต์สิทธิ์ วงศ์กรวณิชย์ จากแบรนด์ Odyssey

  • กลิ่นจตุมหาราชิกาทิศตะวันออก “ท้าวธตรฐ”

โดย คุณศรุจ ตั้งธราธร ผู้ก่อตั้ง Skonx Perfumery

  • กลิ่นจตุมหาราชิกาทิศตะวันตก “ท้าววิรูปักษ์”

โดย คุณธาดา อาชาวงศ์ จากแบรนด์ Tada Parfumeur

  • กลิ่นจตุมหาราชิกา ทิศเหนือ “ท้าวกุเวรหรือ ท้าวเวสสุวรรณ”

โดย คุณปฤณ ลมรส จากแบรนด์ Stranger Parfumerie, PRINN, Parfum Prissana

“เป็นครั้งแรกที่ผมไม่ได้ลงมือปรุงกลิ่นด้วยตัวเอง แต่ทำหน้าที่เป็นผู้ออกแบบแนวคิด และ มอบหมายให้นักปรุงน้ำหอมชาวไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมถ่ายทอดกลิ่นในแบบของตนเอง ความพิเศษของคอลเลคชันนี้ อยู่ที่การจับคู่เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่ทิศจากชั้นจาตุมหาราชิกาเข้ากับนักปรุงแต่ละคน โดยใช้คาแรกเตอร์ของเทพเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปของกลิ่นที่ลึกซึ้งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คอลเลกชันนี้จะวางจำหน่ายในรูปแบบ Limited Edition เพราะวัตถุดิบที่เลือกใช้เป็นวัตถุดิบหายาก มีจำนวนจำกัด และมีราคาสูง การผลิตจึงตั้งใจให้จำกัดจำนวน เพื่อรักษาคุณค่า ความเฉพาะตัว และความประณีตในทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์” นายณัท กล่าว และเพิ่มเติมว่า

“จุดเด่นของคอลเลคชันนี้ อยู่ที่ แนวทางการสร้างสรรค์ที่เปิดพื้นที่ให้กลิ่นแต่ละกลิ่น “เป็นตัวของตัวเอง” อย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบแนวคิดทางวัฒนธรรมไทย นักปรุงแต่ละคนไม่ได้รับเพียงโจทย์เชิงสัญลักษณ์ แต่ได้รับอิสระในการตีความผ่านประสบการณ์ส่วนตัว มุมมองทางศิลปะ และภาษากลิ่นที่ตนถนัด จึงเกิดเป็นผลงานที่มีชีวิต มีมิติ และมีอารมณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน การเปิดตัวคอลเลคชันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขับเคลื่อนธุรกิจของ SIAM1928 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างยอดขายไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 70% เมื่อเทียบกับปี 2567

เรามั่นใจว่ายอดขายในปี 2568 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากที่ล่าสุดน้ำหอม  “Mekha Aranya” (เมฆาอารัญ) น้ำปรุงไทยแบบร่วมสมัยเชื่อมโยงศาสตร์และผสมผสานความหลากหลายของวัฒนธรรมไทยผ่านกลิ่นน้ำหอม คว้ารางวัลระดับโลก The Winner ในสาขา Artisan จากเวที Art and Olfaction Awards 2025 จัดขึ้น ณ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นับเป็นครั้งแรกที่ผลงานจากประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลในหมวดหลักของเวทีระดับนานาชาติ  โดยในปีนี้ SIAM1928 เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับรางวัลร่วมกับแบรนด์จากไต้หวัน ภายใต้ระบบ Blind Judging ที่กรรมการไม่ทราบชื่อผู้เข้าประกวด เพื่อความเป็นกลางและบริสุทธิ์ในการตัดสิน”

โดยนายณัท ได้กล่าวถึงรางวัลดังกล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการได้รับรางวัลในครั้งนี้นอกจากจะเป็นความภาคภูมิใจให้กับคนไทยแล้ว ยังเป็นเครื่องการันตีว่า น้ำหอมสัญชาติไทย ได้รับการยอมรับในระดับเวทีโลก และสร้างความมั่นใจให้กับเราในการพัฒนาน้ำหอมในกลุ่มที่เป็น Artisan และ Niche ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก

จากรายงานล่าสุดของ Market Report World ระบุว่า ตลาดน้ำหอมประเภท Artisan และ Niche มีมูลค่าราว 2.74 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 และคาดว่าจะขยายตัวถึง 5.73 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2577 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงกว่าตลาดน้ำหอมโดยรวมที่เติบโตเฉลี่ยราว 5–6% โดยตลาดนี้มีอัตราการเติบโตสูงในกลุ่มประเทศเอเชีย ยุโรป ยุโรปตะวันออก และ สหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ในกลุ่มของ  Luxury Niche ซึ่งรวมถึงแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ชัดเจน งาน craft สูง และใช้วัตถุดิบพรีเมียม คาดว่ามีมูลค่าถึง 4.28 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 และคาดว่าจะเติบโตสู่ 11.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2576 ที่อัตราการเติบโต 13.2% ต่อปี โดยปัจจุบันผู้นำตลาดในกลุ่ม Luxury Niche ที่เป็นแบรนด์หลัก ประกอบด้วย  Le Labo, Diptyque, Byredo, Creed และ Maison Francis Kurkdjian ถือเป็นผู้ครองส่วนแบ่งสำคัญ โดย Le Labo มีสัดส่วนราว 12.8% และ Diptyque อยู่ที่ประมาณ 11.3%

อย่างไรก็ตาม ตลาด Niche ยังคงเปิดกว้างสำหรับแบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจน มีวัฒนธรรมเฉพาะตัว และสามารถเล่าเรื่องได้ลึกซึ้ง ซึ่งเป็นจุดที่ SIAM1928 มองว่าแบรนด์จากเอเชียและประเทศไทยมีศักยภาพมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์ที่มีความหมายมากกว่าสินค้า” ณัท กล่าวสรุป

สร้างแบรนด์ไทยบุกตลาดโลก ตั้งเป้าเติบโต 50-70%

นายณัทเปิดเผยว่า “น้ำหอมของ SIAM1928 เป็นน้ำหอมที่อยู่ในกลุ่ม Artisan และ Niche โดยเริ่มต้นธุรกิจในปี 2562 ด้วยยอดขายที่ 1 ล้านบาท คาดว่าในปี 2568 ยอดขายจะแตะที่ 20 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 50-70% เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการขยายตลาดต่างประเทศ การเปิดตัวกลิ่นใหม่ และการได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และความเชื่อมั่นในระดับสากล โดยรายได้ 85% มาจากการขายในต่างประเทศ และ 15% มาจากการขายภายในประเทศ

“เรามองว่าแนวโน้มในตลาดเอเชีย และ ยุโรปตะวันออกยังมีโอกาสอีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่มองหาน้ำหอมที่มีวัฒนธรรมลึกซึ้งและไม่ซ้ำใคร ในแบบของ Artisan และ Niche ตลาดในต่างประเทศมีความพร้อมมากกว่าสำหรับน้ำหอมในกลุ่มนี้ ทั้งในแง่ของความเข้าใจ ความเปิดกว้าง และกำลังซื้อ ผู้บริโภคในยุโรป สหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น มีประสบการณ์กับ Niche Fragrance มานาน จึงสามารถเข้าถึงและให้คุณค่าในรายละเอียดของกลิ่น รวมถึงที่มาทางวัฒนธรรมได้ชัดเจน ในขณะที่ตลาดไทยยังถือว่าเป็นตลาดที่เพิ่งเริ่มต้นสำหรับน้ำหอมแนวนี้ ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยยังคุ้นชินกับแบรนด์แมส กลิ่นที่ใช้บ่อยในเชิงแฟชั่น หรือกลิ่นที่เน้นความหวานและความคุ้นเคย ซึ่งเราต้องให้ความรู้ความเข้าใจ เพื่อที่จะขยายตลาดในประเทศไทยต่อไป” ณัท กล่าว

“ปัจจุบัน SIAM1928 มีตัวแทนจำหน่ายทั้งรูปแบบออนไลน์และหน้าร้านรวม 22 แห่ง ใน 9 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย ไทย 5 แห่ง ได้แก่ Rebellion lab and perfume bar /Skonx สาขา เกสร/ Skonx สาขา ทรงวาด/ Thai perfume runway @MBK/ ICONCRAFT @ICON SIAM, จีน 4 แห่ง SCENTEVER (Shenzhen), Scent Atoll (Shenyang), Fengmingyaxiang (Dongguan), MAISON DES PARFUMS, ไต้หวัน 1 แห่ง Taigrance, ญี่ปุ่น ขายผ่าน online ที่ Kousekibanri, สหรัฐอเมริกา 7 แห่ง ที่ Stéle (NYC), Lucky Scent, ZGO Perfumery, Glindee, Scent bar DTLA, Hollywood, NYC – 3 สาขา, ฝรั่งเศส online 1 แห่ง ที่ Periyard, อาบูดาบี, UAE 1 แห่ง ที่  Aroma Avenue, ลิเบีย 1 แห่ง Niche Perfumes LY (Tripoli) และ ฮังการี 1 แห่ง 7scents Parfüméria (Budapest)

สินค้าของเราจะได้รับความนิยมในต่างประเทศ ทำให้ยอดขายในต่างประเทศของเรามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20–25% ต่อปี  จากการยอมรับในกลุ่ม craft fragrance ซึ่งขณะนี้แบรนด์กำลังอยู่ในขั้นตอนส่งออกไปยังรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางขายใน ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า craft fragrance ในรัสเซียซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่”

บริษัท SIAM1928 ก่อตั้งเมื่อปี 2562 โดย ณัท เวชชศาสตร์ ควบตำแหน่ง สุคนธกร หรือนักปรุงน้ำหอม (Perfumer) เป็นผู้สืบทอดสูตรน้ำอบปรุงเจ้าคุณรุ่นที่ 4 ที่หลงใหลศาสตร์การปรุงน้ำหอม หรือน้ำปรุงไทยซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมาพัฒนาต่อยอด ผ่านศาสตร์การปรุงน้ำหอมแบบสมัยใหม่สู่ความร่วมสมัย ที่ยังคงกลิ่นอายดั้งเดิมของน้ำปรุงแบบโบราณไว้ในรูปแบบน้ำหอมแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ

ปัจจุบัน  SIAM1928 มีกลุ่มสินค้าหลักคือ น้ำหอมคอลเลกชันถาวร (Core Collection) ที่บรรจุในขวด พอชเลนเคลือบสีขาว ขนาด 60 มิลลิลิตร ภายในกลุ่มนี้ กลิ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดและถือเป็นตัวหลักของแบรนด์คือ Mekha Aranya และ Karawik สองกลิ่นนี้มีจุดเด่นตรงความเป็นธรรมชาติ ลุ่มลึก และสามารถสื่อสารเรื่องราววัฒนธรรมไทยผ่านกลิ่นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอื่นในคอลเลกชัน เช่น Yod Beer, Sadayu, Tipakorn และ Nari Vimala ที่มีฐานลูกค้าชัดเจนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: PR Solution