กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เร่งตรวจสอบอาคารที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะชายแดนไทย – กัมพูชา

ตามที่ เกิดสถานการณ์เหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่ออาคารและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ชายแดนหลายจังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 7 จังหวัด โดยการประสานความร่วมมือ มอบหมายให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบอาคารที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อลงพื้นที่สำรวจประเมินสภาพความเสียหาย ตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมออกแบบ และประมาณราคาค่าซ่อมแซม โดยให้เป็นไปตามระเบียบของราชการ โดยได้เน้นย้ำบทบาทสำคัญของโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดในการลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร/บ้านเรือน ร่วมกับวิศวกรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และวิศวกรอาสาของเอกชนในพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ครอบคลุมและเร่งด่วน บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาให้เร็วที่สุด โดยกำชับให้บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้การเข้าตรวจสอบอาคารที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานความมั่นคงเรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบัน ได้มีการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบอาคารที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะชายแดนไทย – กัมพูชา ครบทั้ง 7 จังหวัดแล้ว จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 201 หลัง สถานที่ราชการ (โรงเรียน โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล วัด) จำนวน 7 แห่ง สถานที่เอกชน (ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ) จำนวน 2 แห่ง ปศุสัตว์ (วัว กระบือ แพะ ไก่) จำนวน 39 ตัว และสิ่งสาธารณประโยชน์ (ถนน) จำนวน 1 แห่ง

ภารกิจนี้มุ่งหวังให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด โดยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาให้ได้อย่างทันท่วงที

ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง