นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวกรณีพบก้อนคอนกรีตขนาดใหญ่อยู่ในท่อระบายน้ำจำนวนมากบริเวณถนนพระราม 4 เขตคลองเตย ส่งผลให้ท่อระบายน้ำอุดตันและระบายน้ำได้ช้าว่า สนย. ได้ลงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์ปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมหาแนวทางป้องกัน จากการตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ่อพักท่อระบายน้ำบริเวณทางเท้าถนนพระรามที่ 4 ขาออก (ใกล้สมาคมสกุลคู สงเคราะห์) เมื่อเปิดฝาบ่อพักท่อระบายน้ำพบแท่งแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ที่มีลักษะเป็นเนินเอียงลาดไปตามแนวท่อระบายน้ำ จากการวิเคราะห์สาเหตุอาจเกิดจากเศษน้ำปูนบางส่วนจากการก่อสร้างโครงการประเภทใดประเภทหนึ่งบริเวณใกล้เคียงไหลผสมและละลายปนกับน้ำในท่อจนเกิดปฏิกิริยาทางเคมีและค่อย ๆ แข็งตัวสะสมเป็นแท่งแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ โดยที่ผ่านมาการจัดซ่อมและปรับปรุงทางเท้าและผิวจราจรของ สนย. จะตรวจสอบและทำความสะอาดพื้นที่บริเวณก่อสร้างก่อนการส่งมอบงาน โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบางที่อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขัง เช่น ตรวจสอบและเก็บเศษขยะพร้อมเศษวัสดุที่เกิดจากการก่อสร้างในบ่อพักและท่อระบายน้ำ เพื่อลดและป้องกันการสะสมของเศษวัสดุ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้บ่อพักและท่อระบายน้ำอุดตัน ทั้งนี้ สนย. จะพิจารณาใช้กรณีดังกล่าวเป็นแนวทางการเพิ่มมาตรการเพื่อควบคุมการซ่อมและปรับปรุงโครงการต่าง ๆ ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยจะกำหนดไว้ในข้อกำหนดและรายการประกอบการก่อสร้างในประเด็นให้ผู้รับจ้างต้องตรวจสอบความเรียบร้อยและเก็บทำความสะอาดเศษวัสดุที่เกิดจากการก่อสร้างในบ่อพักและท่อระบายน้ำก่อนส่งมอบงาน โดยต้องเป็น ที่ยอมรับของหน่วยงานดูแลระบบระบายน้ำ จึงจะถือว่าการส่งมอบงานโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ สนย. ในฐานะหน่วยงานที่อนุญาตให้หน่วยงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ  เช่น งานรถไฟฟ้า งานนำสายไฟฟ้าลงดิน เข้ามาทำงานในพื้นที่สาธารณะของ กทม. ได้กำหนดมาตรการรายงานผลการตรวจสอบและลอกท่อระบายน้ำให้กับ สนย. เป็นประจำทุกเดือน เมื่องานโครงการเหล่านี้แล้วเสร็จตามคู่มือก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค พ.ศ. 2550 จะมีคณะกรรมการตรวจรับพื้นที่คืน ประกอบด้วยผู้แทนจาก สนย. สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) สำนักสิ่งแวดล้อม … Continue reading กทม. เพิ่มมาตรการควบคุมการซ่อม-ปรับปรุงโครงการก่อสร้าง ตรวจเข้มก่อนรับคืนพื้นที่